มวยไทย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มวยไทย คือศิลปะการต่อสู้ของคนไทย ที่ใช้หมัด ศอก แขนท่อนล่าง เท้า แข้ง เข่า ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ศรีษะ และลำตัวในการต่อสู้ ศิลปะการต่อสู้ลักษณะนี้ หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มีการฝึกหัด ยกตัวอย่างเช่นกัมพูชา เรียกว่า ประดั่ญ เซเรีย (Pradal Serey) ลาว เรียก มวยลายลาว(มวยเสือลากหาง)
สารบัญ |
[แก้] ความหมายของคำว่า"มวย"
- อาจมีที่มาจากลักษณะการม้วนเชือกหรือผ้าเพื่อใช้หุ้มฝ่ามือและท่อนแขนเพื่อใช้ป้องกันอันตรายขณะต่อสู้ หรืออาจเพิ่มอันตรายในการชกกระแทกฟาดโดยการผสมกับกาวแป้งและผงทราย คล้ายลักษณะของมวยผมของนักมวยจีน(มุ่นผม)ซึ่งนิยมถักเป็นเปีย แล้วม้วนพันรอบคอของตน
- หรือกลายจากภาษาเขมร " ประดั่ญ มูย" ซึ่งหมายถึง นักต่อสู้หมายเลขหนึ่ง มีการต่อสู้ในลักษณะเดียวกับ มวยของชาวไทยมุสลิมในท้องถิ่นทางภาคใต้ตลอดจนแหลมมลายู เรียกว่า ซีละ หรือ ปัญจสีลัต มีผู้บัญญัติศัพท์ว่า มวยไทยพหุยุทธ์ โดยเปรียบว่า เป็นการต่อสู่แบบรวมเอาศิลปะการต่อสู้(Martial Art)ทุกแขนง โดยใช้อวัยวะทุกส่วนร่วมด้วยได้แก่ ...การใช้ ศีรษะ คาง เพื่อชน กระแทก โขก ยี ...ใช้แขนฝ่ามือและกำปั้นจับล็อคเหวี่ยงฟัดฟาด ปัด ป้อง ฟาด ผลัก ยัน ทุบ ชก ไล่แขนทำลายจังหวะและหาโอกาศศอก ...ส่วนขา เข่า ฝ่าเท้า ในการบัง ถีบ เตะ ปัด กวาด ฟาด ทำให้บอบช้ำและเสียหลักและใช้ลำตัวในการการทุ่มทับจับหัก (มีคณะนักมวยดังในอดีตคือ ค่าย ส.ยกฟัด ใช้มาก)การประกอบรวมแม่แบบชุดต่อสู้รวมเรียกว่า แม่ไม้ และลูกไม้
[แก้] ประวัติศาสตร์ของมวยไทย
ประวัติศาสตร์อันยาวนานของมวยไทยเริ่มมีและใช้กันในการสงครามในสมัยก่อน ในปัจจุบันมีการดัดแปลงมวยไทยมาใช้ในกองทัพโดยเรียกว่า เลิศฤทธิ์ ซึ่งแตกต่างจากมวยไทยในปัจจุบันที่ใช้เป็นการกีฬา โดยมีการใช้นวมขึ้นเพื่อป้องกันการอันตรายที่เกิดขึ้น มวยไทยยังคงได้ชื่อว่า ศาสตร์การโจมตีทั้งแปด ซึ่งรวม สองมือ สองเท้า สองศอก และสองเข่า (บางตำราอาจเป็น นวอาวุธ ซึ่งรวมการใช้ศีรษะโจมตี หรือ ทศอาวุธ ซึ่งรวมการใช้บั้นท้ายกระแทกโจมตีด้วย)
มวยไทยสืบทอดมาจากมวยโบราณ ซึ่งแบ่งออกเป็นแต่ละสายตามท้องที่นั้น ๆ โดยมีสายสำคัญหลัก ๆ เช่น มวยท่าเสา(ภาคเหนือ) มวยโคราช (ภาคอีสาน) มวยไชยา (ภาคใต้) มวยลพบุรีและมวยพระนคร (ภาคกลาง) มีคำกล่าวไว้ว่า "หมัดหนักโคราช ฉลาดลพบุรี ท่าดีไชยา ไวกว่าท่าเสา"
[แก้] การศึกษาศิลปะมวยไทย
ในสมัยโบราณจะมี สำนักเรียน แตกต่างกันโดยแยกเป็น สำนักหลวงและสำนักราษฎร์ บ้างก็ฝึกเรียนร่วมกับเพลงดาบและมีดหรือการต่อสู้อื่นๆ เพื่อใช้ในการต่อสู้ป้องกันตัวและใช้ในการสงคราม มีทั้งพระมหากษัติย์และขุนนางแม่ทัพนายกองและชาวบ้านทั่วไป (ส่วนใหญ่เป็นชาย)และจะมีการแข่งขันต่อสู้/ประลองกันในงานวัดและงานเทศกาลโดยมีค่ายมวยและสำนักมวยต่างๆ ส่งนักมวยและครูมวยเข้าแข่งขันชิงรางวัล/เดิมพัน โดยยึดความเสมอภาค บางครั้งจึงมีตำนานพระมหากษัตริย์หรือขุนนางที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ปลอมตนเข้าร่วมแข่งขันเพื่อทดสอบฝีมือที่เป็นที่ปรากฏได้แก่ พระเจ้าเสือ(ขุนหลวงสรศักดิ์) พระเจ้าตากสินมหาราช พระยาพิชัย (ครูจ้อยหรือนายทองดีฟันขาวเมืองพิชัย อุตรดิตถ์)จนเมื่อไทยเสียกรุงแก่พม่า ปรากฏชื่อนายขนมต้ม ชาวอยุธยา ซึ่งถูกกวาดต้อนเป็นเชลยศึกได้ชกมวยกับชาวพม่า ชนะหลายครั้งเป็นที่ปรากฏถึงความเก่งกาจเหี้ยมหาญของวิชามวยไทย
กีฬามวยไทยได้รับความนิยมมากในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 มีการชกมวยถวายหน้าพระที่นั่งเป็นประจำที่วังสวนกุหลาบทั้งการต่อสูประลองระหว่างนักมวย/ครูมวยชาวไทยด้วยกันและการต่อสู้ระหว่างนักมวย/ครูมวยต่างชาติ ในยุคแรกการแข่งขันมวยไทยใช้การพันมือด้วยเชือก จนกระทั่งนายแพ นักมวยจากท่าเสา จ.อุตรดิตถ์ ต่อยนายเจียง นักมวยเขมร ถึงแก่ความตาย จึงเปลี่ยนมาสวมนวมแทน ต่อมาเริ่มมีการกำหนดกติกาในการชก และมีเวทีมาตรฐานขึ้นแห่งคือเวทีมวยลุมพินีและเวทีมวยราชดำเนินจัดแข่งขันมวยไทยมาจนปัจจุบัน
ครูมวยที่มีชื่อเสียงยุคนี้ได้แก่
- ครูนาค เทพหัสดินทร์ ณ อยุธยา
- ครูสุนทร(กิมเส็ง)ทวีสิทธิ์ ค่ายยนตรกิจ
- ครูเขตร์ ศรียาภัย ค่ายมวยชุมพร
นักมวยไทยมีชื่อเสียงโด่งดังมากในยุคนั้นถึงปัจจุบัน คือ
- หมื่นมวยแม่นหมัด
- หมื่นชงัดเชิงชก
- นายทับ จำเกาะ (จนมีคำเรียกขานในยุคนั้นว่า หมัดนายจีน ตีนนายทับ)
- ผล พระประแดง
- ยักษ์ผีโขมด สุข ปราสาทหินพิมาย
- ทองใบ เจริญเมือง(ยนตรกิจ)
- พระเอกยอดนักมวย ชูชัย พระขรรค์ชัย
- ราวี เดชาชัย
- ขวัญใจนักเรียน อดุลย์ ศรีโสธร,
- เขียวหวาน ยนตรกิจ
- จอมเตะบางนกแขวก อภิเดช ศิษย์หิรัญ
- คงเดช ลูกบางปลาสร้อย
- เดชฤทธิ์ อิทธินุชิต(ยนตรกิจ)
- ปราบธรณี เมืองสุรินทร์
- สุภาพบุรุษนักมวย วิชาญ ชำณาญวารี ( ส.พินิจศักดิ์ )
- พรชัย (ส.ท่ายาง) แหลมฟ้าผ่า
- พุฒ ล้อเหล็ก
- หัวไทร สิทธิบุญเลิศ
- ผุดผาดน้อย วรวุฒิ,
- จอมไหว้ครู สกัด เพชรยินดี
- เพชรฆาตหน้าหยก สามารถ พยัคฆ์อรุณ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีนักมวยไทยซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่มีฝีมือเทียบชั้นกับยอดมวยไทย เช่น ไอ้กังหันนรก รามอน เด็กเกอร์ Ramon Dekker แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของศิลปะมวยไทยที่เป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก จนถึงปัจจุบันนี้ มีคณะ/ค่ายมวยไทยมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีเวทีมวยไทยมาตรฐานได้แก่ เวทีลุมพินี เวทีราชดำเนิน มีสถาบันการสอนมวยไทย และองค์กรส่งเสริมควบคุมมาตรฐานและการจัดการแข่งขันมวยไทยระดับชาติและนานาชาติ มีกฎหมายในการควบคุมและคุ้มครองการจัดชกมวย
[แก้] การชกมวยไทย
การชกมวยไทยที่ดี มีหลักสำคัญ คือ มีการป้องกัน ด้วยการยืน มั่นคง เข้มแข็ง สูงเด่น การตั้งแขนป้องกัน (การการ์ดมวย)และการเก็บคาง เปรียบเสมือนป้อมปราการ พร้อมที่จะตั้งรับและโจมตีตอบโต้ด้วยแม่ไม้ ลูกไม้และการแจกลูกต่างๆ มีการเคลื่อนไหวที่องอาจมีจังหวะ มีการล่อหลอกและขู่ขวัญประดุจพญาราชสีห์ และพญาคชสีห์ อาวุธมวยที่ออกไป ต้องมีเป้าหมายและจุดประสงค์แน่นอน(แต่มักซ้อนกลลวงไว้) มีการต่อสู้ระยะไกล(วงนอก)และระยะประชิด(วงใน)และมีทีเด็ดทีขาดในการพิชิตคู่ต่อสู้ แม่ไม้มวยไทยที่รู้จักแพร่หลาย อาทิ จระเข้ฟาดหาง, เถรกวาดลาน ,หนุมาณถวายแหวน, มณโฑนั่งแทน, หิรัญม้วนแผ่นดิน ,พระรามเดินดง ฯลฯ ลูกไม้ มีทั้งลูกผสมและลูกแยก เพื่อใช้หลอกล่อและเผด็จศึก เช่น แตะตรงเตะ แตะถีบเตะ แตะตรงถีบเตะ,ลูกเตะสลับ เตะช้อน เตะตวัด เตะสูง เตะสวาบ เตะพับนอกพับใน เตะคา,ลูกถีบหน้า ถีบหลัง ถีบจิก,ลูกศอกตี ตัด งัด พุ่ง กระทุ้ง กลับ,ลูกเข่าน้อย เข่าลา เข่าโค้ง เข่าตี เข่ากระทุ้ง เข่าลอย เข่าแหลม เข่าคา,ลูกหมัดหน้า หมัดหลัง หมัดลัก หมัดอ้อม หมัดเกี่ยว หมัดสอย หมัดเสย หมัดซ้ำ หมัดหนึ่งสอง หมัดชุดสามเหลี่ยมฯลฯ
ปัจจุบันกีฬามวยไทยอาชีพบนเวทีมวยมาตรฐานและ กีฬามวยไทยสมัครเล่น เป็นการต่อสู้ที่มีกฏกติกาชัดเจน มีผู้จัดชก(Promoter)มีกรรมการให้คะแนนและกรรมการตัดสิน (Judge/Julies)การชกจัดเป็นยกมี ๕ ยก ๆละ ๓ นาที พัก ๒ นาที (เดิมกำหนด ๔ ถึง ๖ ยก) มุ่งผลเพียงแค่ แพ้ ชนะ และการแสดงออกของศิลปะการต่อสู้ชั้นสูง ผู้ชกต้องแต่งกายตามกำหนดและก่อนชกต้องมีการไหว้ครูซึ่งเริ่มจากนั่ง/คุกเข่าถวายบังคม ไหว้ขึ้นพรหมนั่ง-ยืน ท่ารำมวย เพื่อสำรวจ ทักทายหรือข่มขวัญซึ่งแตกต่างกันไปตามค่าย/สำนัก อาทิ พระรามแผลงศร, ลับหอกโมกขศักดิ์ ,กวางเหลียวหลัง ,หงส์เหิร ,สาวน้อยประแป้ง ฯลฯ มีการบรรเลงดนตรีให้จังหวะในการต่อสู้ซึ่งใช้เพลงสะหระหม่าแขกใช้ในการไหว้ครู เพลงบุหลันชกมวย และเพลงเชิด ใช้ในการต่อสู้ เครื่องดนตรีไทยที่ใช้บรรเลงประกอบด้วย ปี่ชวา ,กลองแขก,ฉิ่ง
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- มวยไทย.คอม ข้อมูลมวยไทย
- มวยไทย2000.คอม ข้อมูลนักมวยไทย
- มวยไทย.co.th ข้อมูลมวยไทย
- แม่ไม้มวยไทย - รวมข้อมูล แม่ไม้มวยไทย
- มวยไทย
- Feelthailand.com Muay-Thai
- Thai-Boxing Muay-Thai
- muaychaiya