กระบวนการกระจกเปียก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

กระบวนการกระจกเปียก เป็นผลมาจากการทดลองใช้กระจกเป็นวัตถุรองรับในการถ่ายภาพ แทนแผ่นเพลทที่เป็นโลหะ โดยช่างแกะสลักชาวลอนดอน ชื่อ เฟรดเดอริค สก็อต อาร์เชอร์ (Frederick Scott Archer) ได้ศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการทาบอลไทพ์ช่วยในการแกะสลักน้องสาวของของเขาให้เหมือนจริงมากขึ้น โดยการทดลองใช้วัสดุที่เรียกว่า "กัน คอตตอน" ละลายในแอลกอฮอล์และอีเธอร์ ซึ่งจะได้สารละลายที่เรียกว่า "โคโลเดียน"[COLLODION] มีชื่อทางเคมีว่า "เซลลูโลสไนเตรต" ซึ่งทหารนำมาใช้ในการห้ามเลือดจากบาดแผลในสงคราม ซึ่งอาร์เชอร์ได้นำสารโคโลเดียนมาฉาบลงบนกระจกและจุ่มเพลทกะจกลงในสารละลายเงินไนเตรทอีกครั้งก่อนจะนำไปถ่ายภาพในขนะที่เพลทยังเปียกอยู่(ขั้นตอนนี้ทำในห้องมืด) อาร์เชอร์พบว่าถ้ารอให้กระจกแห้งความไวแสงจะสูญเสียไปมาก แต่ถ้าถ่ายขณะที่เพลทยังเปียกอยู่จะใช้เวลาถ่ายน้อยกว่า 3นาที จากนั้นนำไปผ่านกระบวนการสร้างภาพด้วยการนำไปล้างในน้ำยา ไพโรแกลลิกแอซิด [Pyrogallic Acid] หรือ เฟอรัสซัลเฟต [FerrousSulphate] (ขั้นตอนนี้ทำในห้องมืด) จากนั้นนำไปคงภาพด้วยน้ำยาไฮโป เนื่องจากต้องถ่ายภาพขณะที่เพลทไวแสงยังเปียกอยู่จึงนิยมเรียกกระบวนการนี้ว่า กระบวนการกระจกเปียก(Wet Collodion Process On Glass) ซึ่งได้รับความนิยมนานถึง 30 ปี ซึ่งในการถ่ายนอกสถานที่ช่างภาพจะต้องนำกระโจมห้องมืด ขวดน้ำยาและเพลทกระจกและอุปกรณืที่จำเป็นอย่างอื่นไปด้วย


  กระบวนการกระจกเปียก เป็นบทความเกี่ยวกับ วิชา ความรู้ และศาสตร์ต่างๆ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ กระบวนการกระจกเปียก ในภาษาอื่น สามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ๆ ด้านซ้ายมือ