ผู้ใช้:Nantadej/กระดาษทด
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระสมเด็จจิตรลดา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี Jump to: navigation, ค้นหา สารานุกรมประเทศไทย... พระสมเด็จจิตรลดาพระสมเด็จจิตรลดา หรือ พระกำลังแผ่นดิน (หรืออาจเรียกว่า สมเด็จจิตรลดา, พระจิตรลดา) เป็นพระเครื่อง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง พระราชทานแก่ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และพลเรือน ในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2508 - 2513 มีทั้งสิ้นประมาณ 2500 องค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานด้วยพระหัตถ์พระองค์เอง มีเอกสารส่วนพระองค์ (ใบกำกับพระ) ซึ่งแสดงชื่อ นามสกุล วันที่รับพระราชทาน หมายเลขกำกับทุกองค์ และภาพพระสมเด็จจิตรลดา(เป็นภาพพระของเพื่อนคนหนึ่งคนใดที่ได้รับพระราชทานในคราวเดียวกัน) โดยทรงมีพระราชดำรัสแก่ผู้รับพระราชทานว่า "ให้ผู้บูชา ปิดทองที่หลังองค์พระ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ" ดังเช่นในเนื้อเพลงพระราชนิพนธ์ความฝันอันสูงสุด ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ทำนองเมื่อ พ.ศ. 2514
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงออกแบบพระสมเด็จจิตรลดาด้วยพระองค์เอง โดยศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผู้แกะแม่พิมพ์ถวาย
สารบัญ [ซ่อนสารบัญ] 1 ข้อมูลจำเพาะ 1.1 ส่วนประกอบพระสมเด็จจิตรลดา 1.2 แหล่งของผงพระพิมพ์ พระสมเด็จจิตรลดา 2 ดูเพิ่ม 3 อ้างอิง
[แก้] ข้อมูลจำเพาะ
พระพุทธนวราชบพิตร ซึ่งมีพระสมเด็จจิตรลดาประดิษฐานอยู่ ใบกำกับพระ พระสมเด็จจิตรลดาพระสมเด็จจิตรลดา เป็นพระเครื่องทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ขอบองค์พระด้านหน้าทั้ง 3 ด้าน เฉียงป้านออกสู่ด้านหลังเล็กน้อย มี 2 ขนาดพิมพ์ คือ
พิมพ์เล็ก กว้าง 1.4 เซนติเมตร สูง 2.1 เซนติเมตร หนา 0.5 เซนติเมตร พิมพ์ใหญ่ กว้าง 2.2 เซนติเมตร สูง 3.2 เซนติเมตร หนา 0.5 - 1 เซนติเมตร พระสมเด็จจิตรลดา เป็นพระปางสมาธิ ศิลปะรัตนโกสินทร์ พระพักตร์ทรงผลมะตูม องค์พระประทับนั่งขัดสมาธิราบ ประทับนั่งเหนือบัลลังก์ดอกบัว ประกอบด้วย กลีบบัวบานทั้ง 9 กลีบ และแถวเม็ดไข่ปลา อยู่ในกรอบสามเหลี่ยมหน้าจั่ว มีลักษณะละม้ายคล้ายกับพระพุทธนวราชบพิตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชทานประจำทุกจังหวัดและหน่วยทหาร แต่ต่างกันที่ พระพุทธนวราชบพิตร เป็นพระปางมารวิชัย
พระสมเด็จจิตรลดา มีหลายสี ตามรุ่นที่ผลิต ได้แก่ สีน้ำตาล สีน้ำตาล-อมเหลือง สีน้ำตาล-อมแดงคล้ายเทียน สีดำอมแดง หรือ สีดำอมเขียว มีทั้งสีเข้มและอ่อน
[แก้] ส่วนประกอบพระสมเด็จจิตรลดา มวลสารของพระสมเด็จจิตรลดา ประกอบด้วยเรซิน และผงพระพิมพ์ โดยทรงนำมาบดเป็นผง รวมกับเส้นพระเจ้า คลุกกับกาวเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วกดเป็นองค์พระด้วยพระหัตถ์ โดยทรงใช้เวลาตอนดึกหลังทรงงาน มีเจ้าพนักงาน 1 คน คอยถวายพระสุธารส และหยิบสิ่งของถวาย
ผงพระพิมพ์ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ
ส่วนในพระองค์ ประกอบด้วย ดอกไม้แห้ง จากมาลัยที่ประชาชนได้ทูลเกล้าฯ ถวายในการเสด็จพระราชดำเนินเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรและได้ทรงแขวนไว้ที่องค์พระตลอดเทศกาล เส้นพระเจ้า ซึ่งเจ้าพนักงานได้รวบรวมไว้หลังจากทรงพระเครื่องใหญ่ทุกครั้ง ดอกไม้แห้ง จากมาลัยที่แขวนพระมหาเศวตฉัตรและด้ามพระขรรค์ชัยศรี ในพระราชพิธีฉัตรมงคล สี ซึ่งขูดจากผ้าใบที่ทรงเขียนภาพฝีพระหัตถ์ ชันและสี ซึ่งทรงขูดจากเรือใบพระที่นั่งขณะที่ทรงตกแต่งเรือใบพระที่นั่ง วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์จากทุกจังหวัด ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ประกอบด้วย วัตถุที่ได้มาจากปูชนียสถานหรือพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนเคารพบูชาในแต่ละจังหวัด ดอกไม้ ผงธูป เทียนบูชาพระแก้วมรกต ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศวิหาร พระพุทธชินราช วัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก ดอกไม้ ผงธูป เทียนบูชาจากพระอารามหลวงที่สำคัญ ดิน ตะไคร่น้ำแห้งจากใบเสมา จากสังเวชนียสถานในอินเดีย ศรีลังกา ดิน ตะไคร่น้ำแห้งจากใบเสมา จากทุกจังหวัดในประเทศไทย เช่น จากพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม วัดพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ น้ำจากบ่อน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้เคยนำมาใช้เป็นน้ำสรงมุรธาภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และ น้ำอภิเษก
[แก้] แหล่งของผงพระพิมพ์ พระสมเด็จจิตรลดา
พระสมเด็จจิตรลดา รุ่นพระราชทาน พ.ศ. 2508 พระสมเด็จจิตรลดา รุ่นพระราชทาน พ.ศ. 2509 พระสมเด็จจิตรลดา พิมพ์เล็ก รุ่นพระราชทาน พ.ศ. 2509 พระสมเด็จจิตรลดา รุ่นพระราชทาน พ.ศ. 2510 พระสมเด็จจิตรลดา รุ่นพระราชทาน พ.ศ. 2511 พระสมเด็จจิตรลดา รุ่นพระราชทาน พ.ศ. 2512 พระสมเด็จจิตรลดา รุ่นพระราชทาน พ.ศ. 2513 มวลสารทุกจังหวัด
เมื่อปี พุทธศักราช 2508 ประเทศไทย มี 71 จังหวัด ดังนี้
พระนคร (ปัจจุบันคือกรุงเทพมหานคร) ได้แก่ ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ธนบุรี (ปัจจุบันคือกรุงเทพมหานคร) ได้แก่ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระนครศรีอยุธยา ได้แก่ วัดมหาธาตุ พระนครศรีอยุธยา วัดพนัญเชิง วัดสวนหลวงสบสวรรค์ วิหารพระมงคลบพิตร ลพบุรี ได้แก่ ศาลพระกาฬ ศาลลูกศร (ปัจจุบันคือ ศาลหลักเมืองลพบุรี ) พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท สิงห์บุรี ได้แก่ วิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ วัดโพธิ์เก้าต้น (บ้านบางระจัน) วัดสิงห์(ปัจจุบันชื่อ วัดสิงห์สุทธาวาสตำบลโพสังโฆ อำเภอค่ายบางระจัน) พระนอนจักรสีห์ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร (ตำบลจักรสีห์ อำเภอเมืองสิงห์บุรี) อ่างทอง ได้แก่ วัดไชโยวรวิหาร (ตำบลไชโย อำเภอไชโย) สระบุรี ได้แก่ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร วัดพระพุทธฉาย (อำเภอพระพุทธบาท) ปทุมธานี ได้แก่ วัดเสด็จ (อำเภอเมืองปทุมธานี) ผงอิทธิเจและผงปถมํของพระครูสาทรพัฒนกิจ(วัดเสด็จ ตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมืองปทุมธานี) นนทบุรี ได้แก่ วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร สมุทรปราการ ได้แก่ วัดพระสมุทรเจดีย์ ศาลหลักเมืองสมุทรปราการ ราชบุรี ได้แก่ วัดมหาธาตุ (อำเภอเมืองราชบุรี) นครปฐม ได้แก่ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร สุพรรณบุรี ได้แก่ วัดป่าเลไลยก์ ศาลหลักเมืองสุพรรณบุรี พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ วัดสนามชัย (ตำบลสนามชัย (อำเภอเมืองสุพรรณบุรี) สระศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ (ตำบลสระแก้ว) กาญจนบุรี ได้แก่ วัดพระแท่นดงรังวรวิหาร อำเภอท่ามะกา วัดท่ากระดาน (อำเภอศรีสวัสดิ์) เพชรบุรี ได้แก่ พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท พระนครคีรี พระธาตุจอมเพชร ศาลหลักเมืองเพชรบุรีหลังเก่า พระปรางค์วัดมหาธาตุ ประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ พระบรมสารีริกธาตุบนยอดเขาช่องกระจก วัดเขาช่องกระจก ปัจจุบันชื่อ วัดธรรมมิการามวรวิหาร สมุทรสาคร ได้แก่ ศาลหลักเมืองสมุทรสาคร ศาลพันท้ายนรสิงห์ สมุทรสงคราม ได้แก่ วัดเพชรสมุทร (เดิมชื่อวัดบ้านแหลม) อุทัยธานี ได้แก่ วัดสังกัสรัตนคีรี (อำเภอเมืองอุทัยธานี) ชัยนาท ได้แก่ วัดพระบรมธาตุวรวิหาร (ตำบลชัยนาท) วัดธรรมามูล ปัจจุบันชื่อ วัดธรรมามูลวรวิหาร) ชลบุรี ได้แก่ พระพุทธรูปพระพุทธสิหิงค์จำลอง วัดป่า จังหวัดชลบุรี (เมื่อปี พ.ศ. 2508 ปัจจุบันชื่อ วัดอรัญญิกาวาส) ฉะเชิงเทรา ได้แก่ พระพุทธรูปพระพุทธโสธร วัดโสธรวราราม ศาลหลักเมืองฉะเชิงเทรา ระยอง ได้แก่ ศาลหลักเมืองระยอง ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตราด ได้แก่ ศาลหลักเมืองตราด วัดบุปผาราม จันทบุรี ได้แก่ ศาลหลักเมืองจันทบุรี ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระพุทธบาทเขาคิชกูฏ น้ำในคลองนารายณ์บริเวณหน้าน้ำตกเขาสระบาป คลองสระบาป (อำเภอเมืองจันทบุรี) น้ำจากสระแก้ว (ตำบลพลอยแหวน อำเภอท่าใหม่) นครนายก ได้แก่ ศาลหลักเมืองนครนายก พระพุทธบาท วัดเขานางบวช (ตำบลสาริกา) ปราจีนบุรี ได้แก่ วัดต้นศรีมหาโพธิ์ (อำเภอศรีมหาโพธิ์) ลำปาง ได้แก่ วัดพระธาตุลำปางหลวง วัดพระแก้วดอนเต้า วัดพระธาตุเสด็จ ศาลหลักเมืองลำปาง ศาลเจ้าพ่อประตูผา ศาลเจ้าพ่อหมอก แม่ฮ่องสอน ได้แก่ พระธาตุดอยกองมู เชียงราย ได้แก่ วัดพระธาตุดอยตุง (อำเภอแม่สาย) พระธาตุจอมกิติ เชียงใหม่ ได้แก่ วัดพระธาตุศรีจอมทอง (อำเภอจอมทอง) พระธาตุดอยสุเทพ พระพุทธสิหิงค์ ศาลหลักเมืองเชียงใหม่ วัดเจดีย์เจ็ดยอด ที่ตั้งค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (อำเภอฝาง) อนุสาวรีย์พระสงฆ์ครูบาศรีวิชัย น่าน ได้แก่ พระพุทธรูปทองทิพย์ วัดสวนตาล พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุเขาน้อย พระธาตุปูแจ พระธาตุจอมแจ้ง วัดพระธาตุจอมแจ้ง (อำเภอสา) ลำพูน ได้แก่ พระบรมธาตุหริภุญชัย วัดจามเทวี (เดิมชื่อ วัดกู่กุด) แพร่ ได้แก่ ศาลหลักเมืองแพร่ พระธาตุช่อแฮ ตาก อนุเสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พิษณุโลก ได้แก่ พระพุทธรูปพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตวรมหาวิหาร สุโขทัย ได้แก่ วัดมหาธาตุ (อำเภอเมืองสุโขทัย) พระพุทธรูปพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ น้ำบ่อทอง น้ำบ่อแก้ว อำเภอศรีสัชนาลัย วัดต้นจันทร์ (ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย) กำแพงเพชร ได้แก่ วัดพระบรมธาตุ (ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร) พิจิตร ได้แก่ พระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง เพชรบูรณ์ ได้แก่ วัดไตรภูมิ ศาลหลักเมืองเพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ได้แก่ วัดวรนาถบรรพต (วัดเขากบ) อุตรดิตถ์ ได้แก่ พระแท่นศิลาอาสน์ (เดิมชื่อ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่บ้านพระแท่น ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล) วัดพระบรมธาตุ วัดท่าถนน (พระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร) นครราชสีมา ได้แก่ ศาลหลักเมืองนครราชสีมา อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ปราสาทหินพิมาย วัดศาลาทอง วัดพนมวันท์ปราสาทหินพนมวัน ศาลเจ้าแม่บุ่ง ศาลเจ้าพ่อไฟ ศาลเจ้าพ่อวัดแจ้ง ศาลเจ้าพ่อพระยาสี่เขี้ยว ชัยภูมิ ได้แก่ พระปรางค์กู่ พระธาตุกุดจอก (อำเภอเกษตรสมบูรณ์) พระธาตุหนองสามหมื่น (อำเภอภูเขียว) พระพุทธรูปพระเจ้าองค์ตื้อ เขาภูพระ วัดศิลาอาส์น (ตำบลนาเสียว อำเภอเมือง) เจ้าพ่อพญาแล (อำเภอเมือง) บุรีรัมย์ ได้แก่ ปราสาทเขาพนมรุ้ง (อำเภอประโคนชัย) ปราสาทเมืองต่ำ (อำเภอประโคนชัย) ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ ศาลเทพารักษ์ เจ้าพ่อวังกรูด (อำเภอสตึก) http://www.uamulet.com/UClubBuysalekjBoardDetail.asp?qid=690 ภาพพระสมเด็จจิตรลดาที่มีคนประกาศขายมีภาพหน้าหลัง