ปี่พาทย์ออกสิบสองภาษา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ปี่พาทย์ออกสิบสองภาษา เป็นรูปแบบการบรรเลงดนตรีไทยอย่างหนึ่ง บรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ไม้แข็งโดยบรรเลงเพลงสำเนียงภาษาต่างๆติดต่อกันไปแต่ไม่ต้องครบสิบสองภาษาก็ได้ คาดว่าได้รับอิทธิพลมาจากการสวดคฤหัสถ์ในงานศพ

รูปแบบการบรรเลงของแต่ละวงแตกต่างกันไป เนื้อเพลงส่วนใหญ่ในที่นี้ถอดมาจากเทปบันทึกเสียงของวงดุริยประณีต

สารบัญ

[แก้] ออกภาษาไทย

นิยมใช้เพลงกราวนอก ออกด้วยเพลงท้ายกราวหรือแขกเงาะ

เพลงกราวนอก(ขุนช้างขุนแผน)

พระไวยได้ฤกษ์ให้เลิกทัพ รี้พลโจมจับอาวุธมั่น

หอกดาบแหลนหลาวเกาทัณฑ์ สารพันหน้าไม้อาบยา
กึกก้องกองหน้ากล้าศึก อึกทึกถ้วนทั้งสามสิบห้า
หมายมุ่งสับประยุทธ์ยุทธนา กวัดแกว่งศาสตราคลาไคล
เพลงท้ายกราว

พวกเราเหวยวันนี้สนุกวา เกรียวกราวฉาวฉา เฮฮาอยู่สนั่น ยิ่งยวดกวดขันเกณฑ์กันเข้ากองทัพ แต่งตัวเสร็จสรรพ จะไปจับมอญ มัวบาปีปอน จับมอญได้มัดมา
เพื่อนเราเหวย เพื่อนเอยเพื่อนอย่าช้า เสียงเฮๆ เสียงฮาๆ เริงร่าอยู่คะนอง เต้นรำลำพอง คะนองพนานึก อาสาสู้ศึก หาญฮึกอยู่เกรียวกราว

[แก้] ออกภาษาเงี้ยว

นิยมใช้เพลงเส่เหลเมา

[แก้] ออกภาษาจีน

นิยมใช้เพลงจีนขิมเล็ก เพลงจีนไจ้ยอ เพลงจีนโป๊ยกังเหล็ง

เพลงจีนขิมเล็ก (สามก๊ก)

โยธาฮาเฮบ้างเสสรวล ขับครวญตามภาษาอัชฌาสัย

ร้องเป็นลำนำทำนองใน เรื่องขงเบ้งเมื่อใช้อุบายกล
ขึ้นไปนั่งบนกำแพงแกล้งตีขิม พยักยิ้มให้ข้าศึกนึกฉงน
ไพรีมิได้แจ้งแห่งยุบล ก็เลิกทัพกลับพลรีบหนีไป

[แก้] ออกภาษาเขมร

นิยมใช้เพลงเขมรเหลือง เพลงเขมรเร็ว เพลงเขมรเอวบาง

เพลงเขมรเหลือง (พระร่วง)

บ้างก็ร้องพระประทุมสุริวงศ์ จะจับองค์พระร่วงให้จงได้

สั่งทหารให้ตามดำดินไป พบพระร่วงที่ในเขตอาราม
ไม่รู้จักทักถามพระร่วงเจ้า เธอจึงตอบตามเค้าที่เขาถาม
ว่าจงอยู่ที่นี่จะบอกความ ขอมก็เป็นศิลาตามคำสาปเอย

เพลงเขมรเร็ว

มาจะกล่าวถึงขุนมารชาญศักดา ท้าวพิโรธโกรธาดังไฟกัลป์

ว่าเวย ว่าเวย บ้องตัน มันช่างโอหัง ทั้งซวย ทั้งซวยหลายทั่ง แล้วไอ้นาเย่
ตระเตรียมผีพราย นายเอยถ่ายเท ท้วงซย ท้วงซวยว้าเหว่ ที่ไอ้บ้องตัน

ผีพรายได้ฟังทั้งผีป่า วิ่งวุ่นๆไปมา โดนกันดังแฉะ

ว่าเวย ว่าเวยชาวเรา ได้ฟังท้าวสั่ง วิ่งมา วิ่งมาพร้อมพรั่ง เดินก้าวเหยาะแหยะ
ตระเตรียมผีพราย นายเอยโขมด จั๊กกระโดดๆ โลดต่อ มาฮ่อไปแฮะ

[แก้] ออกภาษาปักษ์ใต้

นิยมใช้เพลงข่า เพลงบ้องตัน
เพลงบ้องตัน

จำกูจะไปให้มันถึงเรือน จะไปเตือนบ้องตัน ที่มันทำเฉยแหะ (อ้อ มันต้ำเฉย)

ฝ่ายว่าบ้องตัน มันฝันแลเห็น กระโดดโลดเต้น เอามือตีแปะ
สิบสองบ้องตัน มันพลันตื่นนอน พาเมียรีบจร เข้าดงพงป่า
ถือหอกกำยำ ด้ามยาวสามวา เข้าดงพงป่า รีบหาเนื้อทราย

เสียงนกร้องบอก นกถลอกหัวขบ บ้องตันแลพบ ร้องเรียกอี๊ยาย (เอ๊ย ร้องเรียกอี๊)

เสียงนกบอกเหตุ กูสังเกตมาหลาย คงจะปะเสือร้าย ยายเร่งระวังตัว
ถ้ามันโฮกละเข้ามา มึงอย่าช้าอียาย จงยึดบั้นท้าย เอาไว้อย่ากลัว
กูจะแทงด้วยหอก ให้มันกลอกหัว จะได้เอาตัว ไปถวายเจ้านาย

[แก้] ออกภาษาลาว

นิยมใช้เพลงลาวต่อนก เพลงลาวชมดง

เพลงลาวชมดง

ครั้นถึงเขาสระบาปราบรื่น หยุดยืนหยักรั้งทางสิงขร

พอแลเห็นสองราพะงางอน แอบซ่อนซุ่มดูอยู่แต่ไกล (สร้อย)
อย่าเผลอว่าอ้ายนี่เป็นบัณฑิต รักผู้หญิงมาสนิทพิสมัย
กูจะยิงผัวเสียกูเอาเมียไป พกปืนยัดใส่ลูกยิงพลัน (สร้อย)
(สร้อย) เอ๋ยจ้อยแม่นา อย่าสูกำพร้าเรียมเอย เฮ็ดหยังยังบ่เคย จะมาร้องเอ่ยเป็นคำเมือง

เพลง???

ซำแม่นว่า โอ้ละหนอ แก่ม ปาลาแก่ม ลาปาลา นับว่าเป็นบุญตา บ่หนว่าจักแกล้ง ได้ยลโฉมเพื่อนแพง น้องน้อย
เสาะหญิงใดในใต้แหล่งหล้า งามเลิศกว่าบ่มีไผเปรียบ ไผบ่เทียบเจ้าดรุณี งามจักอี๋บ่มีไผได้ชม นับว่าบุญบ่สม ที่บ่ชมโฉมงาม
ซำแม่นว่า โอ้ละหนอ แก่ม องตงแก่ม เจ้าองตง นวลน้องสององค์ ช่างงามแต่เน้อนวล
เสาะหญิงใดในใต้แหล่งหล้า งามเลิศกว่าบ่มีไผเปรียบ ไผบ่เทียบเจ้าดรุณี งามจักอี๋บ่มีไผได้ชม นับว่าบุญบ่สม ที่บ่ชมโฉมงาม

[แก้] ออกภาษาแขก

นิยมใช้เพลงแขกกะเร็ง เพลงสร้อยเพลงแขกลพบุรี

เพลงสร้อยเพลงแขกลพบุรี

เย โห ไมกรา เยอิ ยูสะมิเล เฮ เฮ ไมเล เฮ้ เฮ
อามัด สะบาไฮยา เบ็นนะยะกาสการียัน ฮ้าฮัดๆ ฮูสีมีนะตัง มีนะตังหุตัง มารังโอรัง เบ็นดังเกิดสี หูสะยา รัดยาสาระมัดสะปาระตี เห เห่เฮ เฮเห้

[แก้] ออกภาษาพม่า

นิยมใช้เพลงพม่าปองเงาะ เพลงพม่าทุงเล

เพลง???

ได้ฤกษ์ให้เบิกพลรบ ปืนลั่นควันตลบบนเวหน

เริงแรงแรงฤทธิ์เรืองรณ จะผจญพาลพวกพาลา

ซวยยาหยั่นปะเละ หะเกร็งสะหวันอย่ายวย หยั่นอยุ่ยวย ยวยอยู่ยั้ง อยู่เย็นหยัดจิ ป๊ะมังเล เปปาหยิบย้อ ปาปิเล
ซายเขวละแหมะ ยันเกริงแหนะปาแหนะ ยันเติงแหนะปะแหนะ ซายซากะเฮย
ซอมปิ่นต่อยเล มาเลมาสู มาซอมปาลา มาเป่าวันยา สะเก ซอมปิ่นต่อยมา เลเลเหล่เล ซอมเปปาลา มาเป่าหวันยา สะเก
อายมาจูเล้ เห่ อายมาจูเล เย้ว ซอละมุนตอยยา ต๊อยหย่าเล อ้ายมาจุสู สูจุแว มาจุแว จุแว้จุแว

เพลงพม่าปองเงาะ

พลรบกล้าหาญเชี่ยวชาญสงคราม เลื่องชื่อลือนามทั่วเขตขัณฑ์ รบสู้สามารถฉกาจฉกรรจ์ ไม่คร้ามไม่ครั่นใครๆ
เพื่อเกียรติพุกามนามเกรียงไกร อาสาบพิตรเรามอบอุทิศชีวิตจิตใจ
ล้วนแต่กล้ารอนราญ หาญในการชิงชัย เราจะต่อเราจะตีจนกว่าไพรีพินาศไป เอาชัยไปเมืองพุกาม

เพลงพม่าทุงเล

ทุงเล ทุงเล ทีนี้จะเห่พม่าใหม่ ตกมาอยู่เมืองไทย มาเป็นผู้ใหญ่ตีกลองยาว

ตีว่องตีไวตีได้จังหวะ ทีนี้จะกะเป็นเพลงกราว เลื่องชื่อลือฉาวตีกลองยาวสลัดได

[แก้] ออกภาษามอญ

นิยมใช้เพลงพญาลำพอง

เพลงพญาลำพอง (ขุนช้างขุนแผน)

ครั้นว่าดาวประกายพรึกขึ้น กองทัพโห่ครื้นสนั่นป่า

(ปี้เปียวอังเอย ม้องเนียงบายๆ ซาวหละ อย่าต่อเสียหละ อย่าละเลยเอย)
ให้รีบยกพหลพลโยธา ออกจากค่ายชายป่าพนาลัย
(ทุมเสียงเนียงรัด ลัดไปลัดตะกออำหละ เล้ เหล่ เล เล้เหล่เลฮุยใหญ่ ฉันจะเอาชัยให้พรรคมอญเอย)

[แก้] ออกภาษาญวน

นิยมใช้เพลงญวนทอดแห

เพลงญวนทอดแห

เทิม เทิม เหยิ่ว เจ๊กเปากะละจี๋ แม่เยิ้ว เจ๊กเปา เจ๊กเปา กงจี่ กะละจี๋จี้จำ หนูมาก้งไผ่ แหกดอยก่งจ่าหนูเอย
จีกวาง ฮ่อกวาง ขวัญเมืองเอื้องยาง จงลุ้ย จงลุ้ยก่งจา หนูมาเอวบาง
เฮ้ว เฮ้วกวาง กะย่อฮ่อกวาง จี่ เอ๋ยจี่ ทอดแหตรงนี้ว่าจะมีกุ้งนาง

[แก้] ออกภาษาฝรั่ง

นิยมใช้เพลงฝรั่งยี่เฮ็ม

[แก้] ออกภาษาชวา

นิยมใช้เพลงช้าโหย

[แก้] ออกภาษาญี่ปุ่น

นิยมใช้เพลงญี่ปุ่นรัญจวน เพลงญี่ปุ่นรำพึง

[แก้] ออกภาษาเกาหลี

นิยมใช้เพลงอารีดัง