โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ (ญี่ปุ่น: ジョジョの奇妙な冒険 [Jojo no Kimyō na Bōken]) เป็นการ์ตูนภาพญี่ปุ่น (มังงะ) ในแนวแฟนตาซี แอ็กชัน ผจญภัย เขียนโดย อะระกิ ฮิโระฮิโกะ (荒木飛呂彦 [Hirohiko Araki]) นักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่น. การ์ตูนชุดโจโจ้ล่าข้ามศตวรรษนี้ ลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเป็นของ บริษัท เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด ออกมาแล้วทั้งหมด 6 ภาคด้วยกันและจบสมบูรณ์ทั้ง 6 ภาคแล้ว ด้วยจำนวนเล่มตั้งแต่ภาคที่ 1 ถึง 5 จำนวน 63 เล่มจบ และภาคที่ 6 (ซึ่งพิมพ์นับจำนวนเล่มใหม่) 17 เล่มจบ
เนื้อหาหลักทั้งหมดของทั้ง 6 ภาคนั้น จะมีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่เล็กน้อย เนื่องจากตัวละครเอกทุกภาคจะมีความเกี่ยวข้องกันโดยสายเลือด ทั้งทางตรงและทางอ้อม กับตระกูล โจสตาร์ ซึ่งมี โจนาธาน โจสตาร์ ตัวละครเอกของภาคที่ 1 เป็นต้นตระกูล โดยจะแบ่งเรื่องทั้งชุดออกได้เป็นสองช่วงหลัก ๆ นั่นคือ ช่วงแรก (ภาคที่ 1-2) จะใช้ความสามารถของ "คลื่นพลังมนตรา" ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับลมปราณภายใน มาต่อสู้กับตัวร้ายที่เป็นเผ่าพันธุ์อมตะ และช่วงที่ 2 (ภาคที่ 3-6) จะใช้ความสามารถที่เรียกว่า "สแตนด์" (Stand) ซึ่งเป็นพลังจิตที่ผู้ใช้สแตนด์สร้างให้มีตัวตนขึ้น และ มีความสามารถแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เข้าต่อสู้กัน
[แก้] หนังสือการ์ตูน
[แก้] ภาค 1 : Phantom Blood : สายเลือดปิศาจ (1889 - Jonathan Joestar)
เนื้อเรื่องกล่าวถึง โจนาธาน โจสตาร์ โจโจ คนแรกในซีรี่ส์ เป็นลูกโทนในตระกูลโจสตาร์ซึ่งเป็นตระกูลผู้ดีอังกฤษ และ ดิโอ บรันโด (Dio Brando) ผู้ซึ่งเข้ามาเป็นบุตรบุญธรรมในตระกูลโจสตาร์ด้วยความเข้าใจผิด ทั้งคู่มีความคล้ายคลึงกันในบุคลิกและความสามารถ แต่ความคิดและนิสัยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จนเมื่อโจนาธาน โจสตาร์ได้ทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับอารยธรรมโบราณที่มีความเกี่ยวข้องกับการสังเวยเลือดมนุษย์ และได้นำตัวอย่าง 'หน้ากากศิลา' กลับมา ดิโอได้แอบเข้าไปอ่านและทดลองการสวมหน้ากากศิลากับคนอื่น ทำให้ดิโอรู้ความลับของหน้ากากศิลา และก้าวข้ามความเป็นมนุษย์ไป เพื่อให้ได้ พลังและความอ่อนเยาว์อันเป็นนิรันดร์ เมื่อดิโอได้พลังของหน้ากากศิลาแล้วจึงวางแผนทำลายตระกูลโจสตาร์ และแย่งชิงนางเอกมาจากโจนาธาน โจสตาร์ ทั้งสองต่อสู้กันจนโจนาธาน โจสตาร์ตายและดิโอ หายสาปสูญ
[แก้] ภาค 2 : Battle Tendency : กระแสสงคราม (1939 - Joseph Joestar)
ตัวเอกในภาคนี้คือโจเซฟ โจสตาร์ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของโจนาธาน โจสตาร์ในภาคแรก ซึ่งถูกเลี้ยงดูมาโดยเอริน่า โจสตาร์ภรรยาของโจนาธาน โจสตาร์ ภาคนี้ดำเนินเรื่องโดยมีชาติกำเนิดที่เป็นความลับของโจเซฟ โจสตาร์ ความสัมพันธ์ของตระกูลโจสตาร์กับตระกูลเซปเปลี่ กองทหารนาซีและมนุษย์ห้ากากศิลาทั้งสาม เป็นแกนเรื่อง ใครคือผู้ให้กำเนิดโจเซฟ เหตุใดซีซาร์ เซปเปลี่ถึงมีความภูมิใจในตระกูลจนลึกไปถึงแก่น การต่อสู้ระหว่างตระกูลโจสตาร์และมนุษย์หน้ากากศิลาทั้งสามจะเป็นอย่างไร อ่านรายละเอียดได้ใน โจโจ้ล่าข้ามศตวรรษ ภาค 2
[แก้] ภาค 3 : Stardust Crusaders : นักรบประกายดาว(1989 - Cujoh Jotaro)
- ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ ภาค 3
ตัวเอกคือคูโจ โจทาโร่ ต้องเดินทางจากญี่ปุ่นไปยังอียิปต์เพื่อต่อสู้กับดิโอ แบรนโด ศัตรูของบรรพบุรุษในภาคแรกที่ฟื้นกลับมาอีกครั้ง โดยในภาคที่ 3 นี้ถือว่าเป็นภาคที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เป็นภาคที่เริ่มแนะนำแนวคิดของสแตนด์ ซึ่งในช่วงแรกได้นำชื่อของไพ่ยิปซีมาตั้งเป็นชื่อสแตนด์ ในช่วงหลังๆ ได้เริ่มนำชื่อวงดนตรีมาใช้แทน และใช้ต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน
[แก้] ภาค 4 : Diamond is Unbreakable : เพชรแท้ไม่มีวันสลาย (1999 - Higashikata Josuke)
- ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ ภาค 4
เรื่องราวเกิดขึ้นในญี่ปุ่น ที่เมืองโมริโอ ปี ค.ศ. 1999
ตัวเอกคือ ฮิงาชิคาตะ โจสุเกะ ลูกชายอีกคนหนึ่งของ โจเซฟ โจสตาร์ กับหญิงสาวชาวญี่ปุ่น เนื้อหาเกี่ยวกับผู้ใช้สแตนด์ที่เพิ่มมากขึ้นจากการที่ใครบางคนใช้ธนูกับคันศรยิงคนทั่วไป ทำให้เกิดผู้ใช้สแตนด์ทั้งดีและร้าย โดยศัตรูสุดท้ายที่ร้ายกาจที่สุดก็คือ คิระ โยชิคาเงะ ฆาตกรโรคจิตที่ได้รับพลังสแตนด์สำหรับฆ่าคนมา และใช้มันฆ่าหญิงสาวหลายสิบราย สุดท้ายแล้วพวกโจสุเกะก็ต้องรวมพลังกับผู้ใช้สแตนด์ฝ่ายดีทั้งหลายในเมืองเพื่อเอาชนะคิระให้ได้
[แก้] ภาค 5 : Golden Wind : สายลมทองคำ (2001 - Giorno Giovanna )
- ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ ภาค 5
เรื่องราวเกิดขึ้นในอิตาลี
ตัวเอกคือ โจรูโน่ โจบาน่า ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นลูกชายของ ดิโอ แบรนโด แต่มีสายเลือดของโจสตาร์ โดยมี ฮิโรเสะ โคอิจิ ตัวละครในภาค 4 เป็นคนเชื่อมเรื่องกับภาค 4 ในช่วงแรก ภาคนี้เป็นการชิงไหวชิงพริบในแก๊งมาเฟียอิตาลีที่โจรูโน่สังกัดอยู่ และเดินทางไปทั่วประเทศอิตาลีในเรื่อง นอกจากนี้ยังเปิดเผยความลับของธนูและคันศร รวมถึงที่มาของสแตนด์อีกด้วย
[แก้] ภาค 6 : Stone Ocean : สมุทรศิลา (2010 - Cujoh Joelyne )
- ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ ภาค Stone Ocean
ตัวเอกคือ คูโจ โจลีน ลูกสาวของ คูโจ โจทาโร่ ที่ถูกอุบายทำให้ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำกรีน ดอลฟิน สตรีท ที่มลรัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ในภาคนี้ได้แนะนำแนวคิดของ ดิสก์ ที่ตัวร้ายคือบาทหลวงเอ็นริเก้ พุซซี่ ใช้ในการมอบความสามารถสแตนด์ให้กับมนุษย์คนใดก็ได้ Stone Ocean ยังเป็นภาคที่มีการแยกชื่อภาคออกมาอย่างชัดเจน และในการตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มก็ได้เริ่มนับเล่มใหม่ตั้งแต่เล่ม 1 ด้วย (ถึงแม้จะมีตัวเลขที่นับต่อจากภาค 5 กำกับไว้ด้วย) บทสรุปของภาค Stone Ocean ถือเป็นบทสรุปของจักรวาลโจโจ้ที่สมบูรณ์
[แก้] ภาค 7 : STEEL BALL RUN : สตีล บอล รัน (1890 - Gyro Zeppeli, Johny Joestar)
- ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน สตีล บอล รัน
เนื้อเรื่องย้อนกลับไปในปี 1890 มหาเศรษฐีสตีเฟ่น สตีลได้จัดการแข่ง สตีล บอล รัน ขึ้น เป็นการแข่งม้าข้ามทวีปอเมริกาเหนือ เริ่มตั้งแต่เมืองซานดิเอโก้ ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย จนถึงนครนิวยอร์ก โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 50 ล้านดอลล่าร์ ตัวเอกในภาคนี้กลับไม่ใช่คนในตระกูลโจสตาร์อย่างที่แล้วๆมา แต่เป็นทายาทตระกูลสนิทของโจสตาร์คือ ไจโร่ เซ็ปเปลี่ แต่สายเลือดโจสตาร์ก็ยังปรากฏตัวในบทพระรองได้แก่ จอห์นนี่ โจสตาร์ รวมถึงตัวละครในโลกคู่ขนานของ 6 ภาคก่อนหน้าก็มาปรากฏโฉมอีกหลายต่อหลายตัวละคร
เดิมทีผู้เขียนตั้งใจให้เป็นเรื่องราวอีกซีรี่ย์หนึ่งแยกต่างหาก แต่ล่าสุดในฉบับที่ตีพิมพ์แบบรายเดือนในนิตยสาร Ultra Jump ผู้เขียน อะระกิ ฮิโระฮิโกะ ได้ตัดสินใจเพิ่มคำว่า Part 7 เข้ามาในโลโก้ของ สตีล บอล รัน แล้ว
[แก้] ภาพยนตร์การ์ตูน
- ได้นำภาค 3 มาทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูน ในรูปแบบโอวีเอ ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1993 ความยาว 6 ตอน เริ่มตั้งแต่พวกโจทาโร่อยู่ในอียิปต์ (เล่ม 20 ตามหนังสือการ์ตูน)
- ปี ค.ศ. 2001 ได้นำภาพยนตร์การ์ตูนตอนก่อนหน้าของภาพยนตร์การ์ตูนเดิม ตั้งแต่ช่วงแรกของภาค 3 ความยาว 7 ตอน
[แก้] วีดีโอเกม
- ภาค 3 ถูกนำมาทำเป็นวิดีโอเกมแบบ RPG ลงในเครื่องซูเปอร์ฟามิคอม ค.ศ. 1993
- ภาค 3 ถูกนำมาทำเป็นวิดีโอเกมอีกครั้งในเครื่องเพลย์สเตชั่น รูปแบบเกมต่อสู้ โดยบริษัทแคปคอม ค.ศ. 1999
- แคปคอมได้นำภาค 5 มาทำเกมลงเครื่องเพลย์สเตชั่น 2 ในปี ค.ศ. 2002
[แก้] Trivia เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
-
- ชื่อสแตนด์ของการ์ตูนเรื่องนี้ ในภาค 3 มาจากชื่อของไพ่ทาโร่ต์ (เช่น Star Plattinum มาจากชื่อไพ่ The Star)ส่วนตั้งแต่ภาค 4 เป็นต้นไปผู้เขียนมักจะนำมาจากชื่อวงดนตรีทางฝั่งยุโรปและอเมริกาและชื่อเพลงของวงดนตรีต่างๆ อาทิเช่น
[แก้] ภาคที่ 4
- สัญลักษณ์ในภาคนี้คือ หัวใจ และ สันติภาพ (Peace) สื่อถึงความสงบสุขและความรักในเมืองเกิดของตน
- สแตนด์ เครซี่ ไดมอนด์ ของโจสุเกะ ดัดแปลงมาจากสแตนด์ เดอะเวิร์ลด์ ของ DIO
- หลายๆฉากในภาคนี้ นำมาจากภาพยนตร์ของสตีเฟ่น คิง เช่นฉาก อวคอ เนคเลซ ในท่อระบายน้ำ จากเรื่อง The Shining หรือฉากกองทหารของ แบด คัมพานี จากเรื่อง
- ชื่อสแตนด์ อะตอม ฮาร์ท ฟาเธอร์ ดัดแปลงมาจากชื่ออัลบั้ม Atom Heart Mother โดย Pink Floyd
[แก้] ภาคที่ 5
- ชื่อตัวละครในภาคนี้ส่วนใหญ่จะนำมาจากชื่อของอาหารต่างๆในภาษาอิตาลีเช่น รีส็อตโต(Resotto) แพนนาก็อตตา (Pannacotta)
- ในเนื้อเรื่องมีการกล่าวถึงตัวละครบางตัวถูกฆ่าโดยการหั่นเป็นชิ้นๆและใส่กรอบไว้ มีลักษณะคล้ายกับงาน Some Comfort Gained from the Acceptance of the Inherent Lies in Everything โดยศิลปินแนวป๊อบอาร์ตชาวอังกฤษที่ชื่อ Damien Hirst ที่นำวัวทั้งตัวมาหั่นเป็นชิ้นแล้วใส่กรอบไว้ ซึ่งผลงานลักษณะนี้มีให้เห็นในภาพยนตร์เรื่อง The Cell ด้วย
- แม้ในเรื่องจะไม่กล่าวถึง แต่เต่าที่มีกุญแจติดอยู่ข้างหลัง ถูกระบุชื่ออย่างเป็นทางการไว้ว่า Coco Jumbo และชื่อสแตนด์ของมันก็คือ Mr. President
- สัญลักษณ์ในภาคนี้คือเต่าทอง สื่อความหมายถึงชีวิตและความเป็นอมตะ
[แก้] ภาคที่ 6
- ชื่อสแตนด์ สโตน ฟรี ของ โจลีน มาจากชื่อเพลงๆหนึ่งของ จิมมี่ เฮนดริกซ์(ชื่อนี้เป็นชื่อ albumของ jimi hendrix ด้วย)
- นอกจากคูโจ โจลีน แล้ว ตัวละครอื่นทุกตัวที่ปรากฏชื่อออกมาล้วนแต่นำมาจากชื่อสินค้า Brand ต่างๆทั้งสิ้น เรียงตามการปรากฏตัวดังนี้
เอลเมส(Hermes) เอมโพริโอ้(Emporio) เกวส(Guess) พุซซี่(Emilio Pucci) ฌองการี่ เอ(John Galliano) แซนเดอร์ แมคควีน(Alexander McQueen) มิราชั่น(Mirashon) แลงก์ แรงเลอร์(Wrangler) สปอร์ต แม็กซ์(Sports Max) แอนนาซุย นาร์ซีโซ่(Anna Sui) กุชชี่(Gucci) โซนี่ รีกิล(Sony) วิเวียโน่ เวสต์วู้ด(Vivian Westwood) เคนโซ(Kenzo) ดีแอนด์จี(D&G - Dolce&Gabbana) มิวมิว(Miumiu) อุงกาโร่(Emanuel Ungaro) ริคิเอล(Sonia Rikiel) โดนาเทลโล เวลซัส(Donatello Versace)
- ในตอนของเวธเธอร์รีพอร์ตตอนแรก ฉากฝนกบ เหมือนกับภาพยนตร์เรื่อง Magnolia
- ในตอนของมิวมิว อาการความจำสั้นจนต้องสักข้อความต่างๆไว้บนร่างกาย เหมือนกับภาพยนตร์เรื่อง Memento
- สัญลักณ์ของภาคนี้คือผีเสื้อ สื่อถึงอิสรภาพและการเจริญเติบโต
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
![]() |
โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ เป็นบทความเกี่ยวกับ การ์ตูน ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น |
โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ เนื้อเรื่องหลัก |