โรคอัลไซเมอร์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
![]() |
คุณสามารถช่วยตรวจสอบ และแก้ไขบทความนี้ได้ด้วยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน กรุณาเปลี่ยนไปใช้ป้ายข้อความอื่น เพื่อระบุสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ หรือแก้ไข ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วิธีการแก้ไขหน้าพื้นฐาน คู่มือการเขียน และ นโยบายวิกิพีเดีย และเมื่อแก้ไขตามนโยบายแล้ว สามารถนำป้ายนี้ออกได้ |
ย้อนไปเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ.1906 (พ.ศ. 2449) ในการประชุมวิชาการของ Society of Southern German Psychiatrists ครั้งที่ 37 ซึ่งจัดที่เมืองทูบิงเงน ประเทศเยอรมนี นายแพทย์อาโลอิส อัลไซเมอร์ (Alois Alzheimer) ได้นำเสนอลักษณะทางประสาทพยาธิวิทยาและอาการทางคลินิกของโรคนี้เป็นครั้งแรก หลังจากนั้นเอมิล เคร็บเพลีน (Emil Kraepelin) ก็ได้ตั้งชื่อโรคนี้ตามผู้ค้นพบคือ โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease)
ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น นายแพทย์อัลไซเมอร์เป็นหัวหน้าห้องปฏิบัติการกายวิภาคศาสตร์ (Anatomical Laboratory) ที่ Royal Psychiatric Clinic แห่งมหาวิทยาลัยมิวนิค (University of Munich) ประเทศเยอรมนี เขาย้ายมาอยู่ที่นี่เมื่อปี ค.ศ. 1903 โดยก่อนหน้านี้เขาทำงานที่สถาบันอาการป่วยทางจิตและลมชัก (Municipal Institution for the Mentally Ill and Epileptics) ในเมืองแฟรงก์เฟิร์ทซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาได้รับการถ่ายทอดความรู้ทางด้านพยาธิวิทยาของสมอง (brain histopathology) จากนายฟรันซ์ นิสเซิล (Franz Nissl) (นายนิสเซิลเป็นนักประสาทวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นวิธีการย้อมเซลล์สมองหรือ Nissl Staining method ทำให้เราสามารถมองเห็นโครงสร้างของเซลล์ของเซลล์สมองและกลุ่มโปรตีนที่ติดสีย้อมที่เรียกว่า Nissl Bodies)
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1901 นายแพทย์อัลไซเมอร์ได้รับผู้ป่วยหญิงที่ชื่อออกุสเทอ เด. (Auguste D.) อายุ 51 ปี เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลของเมืองแฟรงก์เฟิร์ทโดยมีอาการหลักคือ ความจำเสื่อมขั้นรุนแรง (progressive memory loss), focal symptoms, เห็นภาพซ้อน (delusions), ประสาทหลอน (hallucinations) ในปี 1906 ออกุสเทอ เด.ได้เสียชีวิตลง สมองของเธอถูกส่งไปให้นายแพทย์อัลไซเมอร์วิเคราะห์ที่มิวนิค ในที่สุดอัลไซเมอร์ก็ได้ใช้เทคนิคการย้อมเซลล์แบบ Silver staining method ของ Max Bielschowsky ที่ได้นำเสนอวิธีนี้เมื่อสี่ปีก่อนหน้า ผลการทดลองของอัลไซเมอร์ได้แสดงถึง neuritic plaques (ต่อมาพบว่าประกอบด้วยกลุ่มของ amyloid beta peptides ซึ่งอยู่ภายนอกเซลล์) และ neurofibillay tangles (ภายหลังพบว่าประกอบด้วยกลุ่มของ hyperphosphorylated Tua protein ซึ่งอยู่ภายในเซลล์) ซึ่งเป็นลักษณะทางพยาธิวิทยาหลักของโรคโรคอัลไซเมอร์ที่ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงจวบจนปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ทั่วโลกประมาณ 20 ล้านคนแล้ว
เอกสารอ้างอิง Michel Goedert and Maria Grazia Spillatini, A Century of Alzheimer’s disease, Science Vol 314, 777-780.