ฟรองซัว มีแตรอง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ฟรองซัว มีแตรอง
ฟรองซัว มีแตรอง

ฟรองซัว มิแตรอง (François Mitterrand) ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

สารบัญ

[แก้] ชีวประวัติ

[แก้] ก่อนดำรงตำแหน่ง

นายฟรองซัว เกิดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 1916 ที่เมืองจาร์นัค (Jarnac) เขาได้รับความคิดเรื่องสังคมนิยมมาจากพ่อของเขาคือ นาย Joseph ที่เป็นนายสถานีรถไฟอังโกเลม และภายหลังประกอบอาชีพที่โรงงานกลั่นน้ำมัน เมื่ออายุได้ 18 ปี เขาเดินทางมาปารีสเพื่อศึกษาต่อ เขาเข้าโรงเรียนคาธอลิค นักการเมืองในสมัยก่อนมักจบการศึกษาด้านกฎหมายหรือจากโรงเรียนนายร้อยซึ่งนายมิแตรองด์จบการศึกษาวิชากฎหมายและรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Sorbonne หลังจากนั้นเขาสมัตรเข้ารับราชการทหาร ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างสู้รบ เขาถูกจับไปเป็นเชลยของเยอรมัน ต่อมาสามารถหลบหนีออกมาได้ ในสมัยนั้นนาซีได้รับความนิยมและมีอิทธิพลในสังคมเทียบได้กับประเทศอเมริกาปัจจุบันนี้ ช่วงแรกเขาเข้าข้างพวกนาซี แต่เมื่อเขารู้ถึงแก่นแท้ของพวหนาซีแล้ว ทำให้เขาเกลียดพวกนี้มากขึ้น และรวบรวมพรรคพวกขึ้นเพื่อก่อตั้งหน่วยใต้ดินต่อต้านพวกเยอรมันนาซีที่เรียกว่า "หน่วยฟรีเฟรนช์" ซึ่งอยู่ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ

[แก้] สมัยดำรงตำแหน่ง

เมื่อสงครามโลกครั้งทมี่ 2 สิ้นสุดลง นายฟรองซัวได้เข้าสู่เส้นทางการเมืองอย่างจริงจัง เริ่มจากการชนะการเลือกตั้งและได้เป็นส.ส. ในขณะที่อายุเพียง 30 ปี ต่อมาเขาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกิจการทหารผ่านศึก ซึ่งในขณะนั้นเขาเป็นรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุด

เขาเคยลงแข่งขันในการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ต้องพ่ายแพ้แก่นายพลเดอโกลล์และนายวาเลคีย์ จิสการ์ เดสแตง เป็นระยะเวลา 16ปีเต็มแห่งความพ่ายแพ้ แต่ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในปี 1981 นายฟรองซัวเป็นนักการเมืองฝ่ายซ้ายคนแรกที่ได้รับเลืแกเป็นประธานาธิบดี และอีก 7 ปีต่อมาเขาได้ชัยชนะการเลืแกตั้งอีกครั้ง จึงทำให้นายฟรองซัวได้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง

[แก้] บทสุดท้ายของมิตแตคองด์

วันที่ 8 มกราคม 1996 อดีตประธานาธิบดีฟรองซัว มิตแตคองด์ ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 79 ปี ขณะที่หลับอยู่ในอพาร์ทเมนต์ข้างๆสำนักงานของเขา หลังต่อสู้กับความเจ็บปวดจากโรคมะเร็งที่ต่อมลูกหมากมาเป็นระยะเวลาหลายปี และต้องได้รับการผ่าตัดถึง 3 ครั้ง

[แก้] เหตุการณ์สำคัญในสมัยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

[แก้] การก่อการร้ายในฝรั่งเศส(เดือนกันยายน 1986

  • วันที่ 12 กันยายน 1986 ที่ย่านธุรกิจใจกลางกรุงปารีสเกิดระเบิดขึ้นที่ร้านขายอาหาร Cafétéria มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 42 คน
  • วันที่ 18 กันยายน ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารฝรั่งเศสชื่อ Christian Goutierre ถูกฆาตกรรมที่เมืองเบรุต เลบานอน

สาเหตุที่ผู้ก่อการร้ายวางระเบิดที่กรุงปารีส เนื่องมาจากต้แงการให้รัฐบาลฝรั่งเศสปล่อยตัวนายจอร์จ อิบราฮิม อับดลเลาะห์ หัวหน้ากลุ่มกองกำลังติดอาวุธปฏิวัติเลบานอน หรือกลุ่มฟาร์ล Farlก่อการร้ายในฝัร่งเศสและอิตาลีตั้งแต่ 1980 รวมทั้งสังหารนักการทูตอเมริกันและอิสราเอลในกรุงปารีส นายจอร์จ อิบราฮิมเป็นชาวคริสต์เลบานอน นิยมฝ่ายซ้าย ถูกตำรวจฝรั่งเศสจับกุมได้ที่เมืองลียงทางใต้ของฝรั่งเศส ศาลสั่งจำคุก 4 ปีด้วยความผิดที่มีเอกสารปลอมและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมทั้งคดีอื่นๆที่เคยทำ เช่น การสังหารนักการทูตในกรุงปารีส เป็นต้น

[แก้] การประท้วงครั้งใหญ่ของนักศึกษาฝรั่งเศส

วันที่ 10 ธันวาคม 1986 นักเรียน นักศึกษา นักวิชาการและผู้ปกครองรวมตัวกันทำการประท้วง เนื่องจากความไม่พอใจที่รัฐบาลประกาศเปลี่ยนแปลงพระราชบัญญัติปฏิรูปการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งจัดทำโดยนายอแลง เดอวาเกต์(Alain Devaquet)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาระดับสูงหรือทบวงมหาวิทยาลัย เป็นผู้ร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ขึ้นมา พระราชบัญญัติฉบับใหม่นี้ต้องการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษามหาวิทยาลัยใหม่ เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีการคัดเลือก แข่งขันและเลือกเฟ้นเฉพาะผู้ที่เก่งเฉพาะด้าน โดยเพิ่มคาเข้าเรียนให้สูงขึ้นและออกประกาศนียบัตรใบปริญญาที่ระบุชื่อสถาบันแก่ผู้ที่ศึกษาจบปริญยาจากมหาวิทยาลัยนั้นๆ แต่นักศึกษาทำการประท้วงไม่เห็นด้วยกับพระราชบัญญัติฉบับใหม่ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะนำมาซึ่งความแตกต่างด้านคุณภาพ ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย เกิดความไม่เสมอภาคทางการศึกษาและการมีอิสระในการเก็บค่าเล่าเรียน ทำให้ค่าเข้าเรียนศุงกว่าจำนวนที่กำหนดเดิม การประท้วงเริ่มขึ้นเดินพฤษจิกายน 1986 มีการเจรจาระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและนายเดอวาเกต์ให้ยกเลิกพระราขบัญญัติฉบับใหม่นี้ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จทำให้มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ในที่สุดรัฐบาลก็ประกาศยกเลิกการปฏิรูปการศึกษาในระดับมัธยมและระดับมหาวิทยาลัย การประท้วงยุติลงในวันที่ 29 ธันวาคม 1986

[แก้] สภาวะทางเศรษฐกิจ

การวางแผนการจัดระเบียบทางเศรษฐกิจ หลังจากที่นายฟรองซัวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส เขาได้วางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงการจัดระเบียบทางเศรษฐกิจของฝัร่งเศสใหม่ คือ เริ่มระบบการโอนิจการอุตสาหกรรมมาเป็นของรัฐ การโอนกิจการนี้ทำให้ระบบการให้สินเชื่อของประเทศตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ และการให้ค่าชดเชยแก่บรรดาผู้ถึอหุ้นในกิจการที่ถูกยึดมาเป็นของรัฐจะกระทำในลักษณะพัธบัตรรัฐบาล แต่นโยบายนี้ไม่ได้ทำให้ประเทศฝรั่งเศสขยายตัวทางเศรษฐกิจมากนั อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเริ่มจากการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคในอัตราที่สูงขึ้น เป็นผลให้งบประมาณแผ่นดินขาดดุล เกิดภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น และปริมาณเงินหมุนเวียนในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากภาวะการเงินในอัตราสูง ทำให้เกิดภาวะกดดันแก่เงินฟรังค์ ก่อให้เกิดปัญกาต่อค่าเงินฟรังค์ในระบบการเงินยุโรป คือเกิดช่องว่างของอัตราดอ กเบี้ยในยุโรปขึ้น

มนปี 1986 สภาวะเศรษฐกิจของฝัร่งเศสขยายตัวอยู่ในระดับปานกลางร้อยละ1.9 การว่างงานที่เป็นปัญหาสำคัญในขณะนั้นลดลง อัตราเงินเฟ้อลดลงร้อยละ2 เป็นผลจากการลดลงของระดับราคาพลังงานที่นำเข้าการบริโภคอยู่ในระดับปานกลาง ขณะที่การลงทุนขยายตัวสูงขึ้น

[แก้] ผลงานที่สำคัญ

ในเวลา 14 ปีที่ดำรงตำแหน่งภายใต้ความคิดสังคมนิยม และมีผลงานที่สนับสนุนแนวคิดนี้มากมาย อาทิ

  • ยกเลิกการประหารชีวิต
  • ให้เสรีภาพแก่สถานีวิทยุโทรทัศน์
  • ออกกฎหมายที่อยู่อาศัย (Loi Quilliot)
  • ออกกฎหมายแรงงาน(Loi Auroux) ซึ่งเป็นกฎหมายที่กำหนดให้มีการทำงาน 39 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และลูกจ้างสามารถลาหยุดงานได้ โดยที่นายจ้างต้องจ่ายเงินให้ และกำหนดให้มีการเกษียณอายุเมื่ออายุครบ 60 ปี
  • ออกกฎหมายการศึกษาขั้นสูง (Loi Savary)
  • ออกกฎหมายกระจายอำนาจทางการเมืองจากส่วนกลางสู่ภูมิภาค
  • ปี 1992 การออกเสียงประชามติของสหภาพยุโรปทำให้นายฟรองซัวได้เป็นคนวางรากฐานการจัดตั้งเงินสกุลเดียวกันของยุโรป ที่เรียกว่า"ยูโร"
  • การสั่งให้ประเทศฝรั่งเศสหยุดแผนทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินในปี 1992
  • ประธานาธิบดีฟรองซัวและนางมาร์กาเร็ต แธตเขอร์นายกรัฐมนตรีอังกฤษร่วมลงนามในสัญยาสร้างอุโมงค์คู่ลอดช่องแคบอังกฤษเพื่อเชื่อมระหว่างสองประเทศ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 1986 ณ มหาวิหารแคนเทอเบอรี่ ประเทศอังกฤษ
  • ริเริ่มให้สร้าง L'Arche de la défense ,La Pyramide du Louvre , La Bibliothèque Nationale
  • ในสมัยประธานาธิบดีฟรองซัวมีการทำ cohabitation ที่ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจากฝ่ายเดียวกัน ในสมัยนร้เกิดขึ้น 2 ครั้ง
    • ครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในปี 1986-1988 เป็นสมัยที่นายฟรองซัวแห่งพรรคฝ่ายซ้ายเป็นประธานาธิบดี แต่งตั้งนายชีรคแห่งพรรคฝ่ายขวาเป็นนายกรัฐมนตี
    • ครั้งที่ 2 เดดขึ้นในปี 1993-1995 เป็นสมัยที่นาย Edouard Balladur เป็นนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคฝ่ายขวา


  ฟรองซัว มีแตรอง เป็นบทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ ฟรองซัว มีแตรอง ในภาษาอื่น สามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ๆ ด้านซ้ายมือ