สมเด็จพระมหินทราธิราช

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สมเด็จพระมหินทราธิราช ในภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พ.ศ. 2550) รับบทโดย สันติสุข พรหมสิริ
สมเด็จพระมหินทราธิราช ในภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พ.ศ. 2550) รับบทโดย สันติสุข พรหมสิริ

สมเด็จพระมหินทราธิราช พระนามเดิม พระมหินทร์ หรือพระมหินท์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๑๖ ของกรุงศรีอยุธยา ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สอง ในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ กับสมเด็จพระสุริโยทัย เสด็จพระราชสมภพ เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๐๘๒ มีพระเชษฐาคือ พระราเมศวร ผู้เป็นพระมหาอุปราช มีพระเชษฐภคินีคือ พระบรมดิลก และพระขนิษฐาสองพระองค์คือ พระสวัสดิราช (พระวิสุทธิกษัตรี)กับพระเทพกษัตรี

[แก้] พระราชประวัติและราชการสงคราม

หลังสงครามกับพม่าเมืองหงสาวดีที่เรียกว่าสงครามช้างเผือก ยุติลงในปี พ.ศ.๒๑๐๗ พระมหินทร์ซึ่งเป็นพระมหาอุปราชต่อจากพระราเมศวร ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ซึ่งเสด็จออกผนวช สมเด็จพระมหินทราธิราชทรงคลางแคลงพระทัยในความจงรักภักดีของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชแห่งเมืองพิษณุโลกที่ไปยอมอ่อนน้อมต่อหงสาวดี จึงสมคบกับล้านช้างร่วมกันตีพิษณุโลกแต่ไม่สำเร็จ

ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๑๑๑ สมเด็จพระมหินทราธิราชรั้งราชการไม่ไหว ได้ทูลขอให้สมเด็จพระมหาจักรพรรดิลาผนวช แล้วขึ้นครองราชสมบัติอีกครั้งเพื่อเป็นจอมทัพเตรียมรับศึกหงสาวดี โดยพระเจ้าบุเรงนอง ได้ยกกองทัพเจ็ดกองทัพ มาทำสงครามกับกรุงศรีอยุธยาโดยมีทัพพระมหาธรรมราชาร่วมด้วย กองทัพหงสาวดียกเข้ามาทางด่านแม่ละเมา แล้วเข้าตีหัวเมืองทางเหนือ เพื่อตัดกำลังไม่ให้ส่งกองทัพเข้ามาช่วยกรุงศรีอยุธยา จากนั้นจึงได้เข้าปิดล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้

ในระหว่างการศึก สมเด็จพระมหาจักรพรรดิประชวรและเสด็จสวรรคตระหว่างถูกปิดล้อมกรุงอยู่ สมเด็จพระมหินทราธิราช จึงได้ขึ้นครองราชย์ต่อมา ทัพหงสาวดีล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่ได้ห้าเดือน ยังไม่สามารถตีหักเข้าไปได้ พระเจ้าบุเรงนองจึงออกอุบายเกลี้ยกล่อมให้สมเด็จพระมหินทราธิราช ยอมเป็นไมตรี โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือขอตัวพระยาราม ผู้มีความสามารถรับผิดชอบการรักษาพระนครอย่างเข้มแข็ง สมเด็จพระมหินทราธิราช ทรงยินยอมมอบตัวพระยารามแก่พม่า แต่ทางพระเจ้าบุเรงนองกลับตระบัดสัตย์ ไม่ทำตามข้อตกลง และเร่งยกกำลังเข้าตีกรุงศรีอยุธยาหนักขึ้น

ขณะนั้นใกล้ฤดูน้ำหลาก แต่พม่าก็ยังไม่สามารถตีกรุงศรีอยุธยาได้ จึงได้เกลี้ยกล่อมให้พระยาจักรีซึ่งทางหงสาวดีขอตัวไปพร้อมกับ พระราเมศวรในสงครามกับพม่าครั้งก่อน เข้าเป็นไส้ศึกในกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหินทราธิราช ทรงเห็นว่าพระยาจักรีเคยเป็นแม่ทัพ ที่มีความสามารถในการศึกกับพม่าครั้งก่อน จึงทรงโปรดให้เป็นผู้จัดการป้องกันพระนคร ทัพพม่าจึงตีหักเข้าพระนครได้ เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๑๑๒ หลังจากล้อมพระนครไว้ถึงเก้าเดือน

พม่าเข้ายึดทรัพย์สิน และกวาดต้อนผู้คนกลับไปพม่าเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสมเด็จพระมหินทราธิราช พระบรมวงศานุวงศ์ และขุนนางน้อยใหญ่ ก็ได้นำไปกรุงหงสาวดีด้วย และพระเจ้าบุเรงนองได้ทรงตั้งให้สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชปกครองกรุงศรีอยุธยาในฐานะประเทศราชของหงสาวดีต่อไป


สมเด็จพระมหินทราธิราช ทรงพระประชวรและเสด็จสวรรคตระหว่างทาง เมื่อปี พ.ศ. ๒๑๑๒ พระชนมายุได้สามสิบพรรษา ครองราชย์ได้ ๑ ปี แต่บางพงศาวดารระบุว่า พระองค์สิ้นพระชนม์เพราะถูกจับถ่วงน้ำที่เมืองสระถุง ระหว่างถูกกวาดต้อนไปกรุงหงสาวดี เนื่องจากกระทำการลบหลู่พระเกียรติพระเจ้าบุเรงนอง บันทึกของชาวตะวันตกบางคนกล่าวบริภาษพระองค์ว่า เป็นกษัตริย์ที่มีพระปรีชาน้อยที่สุดในอาณาจักรอยุธยา

[แก้] ดูเพิ่ม



รัชสมัยก่อนหน้า:
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
ราชวงศ์สุพรรณภูมิ
พระมหากษัตริย์ไทย
อาณาจักรอยุธยา

ราชวงศ์สุพรรณภูมิ ๒๑๑๑๒๑๑๒
รัชสมัยถัดไป:
สมเด็จพระมหาธรรมราชา
ราชวงศ์สุโขทัย



  สมเด็จพระมหินทราธิราช เป็นบทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ สมเด็จพระมหินทราธิราช ในภาษาอื่น สามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ๆ ด้านซ้ายมือ
สถานีย่อย:ประเทศไทย