อีริค แคลปตัน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อีริค แคลปตัน
ขยาย
อีริค แคลปตัน

อีริค แคลปตัน (Eric Clapton) เกิด 30 มีนาคม พ.ศ. 2488 เจ้าของฉายา "Slowhand" เป็นมือกีตาร์ นักร้อง นักแต่งเพลง ชาวอังกฤษ

สารบัญ

[แก้] ประวัติ

Eric Patrick Clapton เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2498 ประเทศอังกฤษ ภายหลังจากที่เขาเสียคุณพ่อไป คุณตาคุณยายของ Eric ( Rose and Jack Clapp ) จึงยื่นมือเขามาช่วย โดยทำหน้าที่เป็นพ่อแม่และเลี้ยงดู Eric เหมือนเป็นลูกของตัวเอง นามสกุลของ Eric เป็นของสามีคนแรกของ คุณยายเขาซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของคุณแม่เขาที่ชื่อว่า Reginald Cecil Clapton

Eric เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่รักเสียงดนตรี ด้วยบุคลิกภาพที่เป็นคนเงียบ ขรึม และสุภาพของ Eric เขาจึงถูกมองว่าเป็นเด็กที่เรียนดี มีความสามารถ ทางด้านศิลปะ เมื่อเริ่มวัยเรียน เขาเกิดความสงสัย ในต้นกำเนิดของตัวเอง เมื่อสังเกตเห็นว่า เขาไม่ได้ใช้นามสกุลเดียว กับเขาคุณตาคุณยาย Mr. and Mrs. Clapp ซึ่งเขาคิดว่าเป็นพ่อแม่ เขาจึงได้รู้ความจริงเกี่ยว กับพ่อแม่แท้ๆเมื่ออายุ 9 ขวบ เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญหนึ่งในชีวิต และมีผลกระทบอย่างมากต่อ ชีวิตของเขา

ในปี 2504 Eric ได้เข้าเรียนใน Kingston College of Art ด้วยการติดทัณฑ์บน 1 ปี แต่ก็ไม่สามารถผ่านช่วงทัณฑ์บนไปได้ และถูกไล่ออก สาเหตุก็เพราะ เขาทุ่มเทเวลาทั้งหมดที่มีให้กับการฟังเพลง และเล่นกีต้าร์แนวบลูส์ จนไม่มีเวลาให้กับการเรียน ด้วยความที่เป็นคนช่างคิด เขาจึงสามารถมองผ่าน เปลือกนอกและลงลึกไปในเนื้อในความป็นร็อค ในแนวเพลง American Blues และเพลงแนวบลูส์นี้เองที่ช่วยสื่อถึงตัวตน ที่แท้จริง ของเขาได้อย่างแท้จริง

เอกลักษณ์ของ Clapton เกิดจากการที่เขาไม่ได้ลอกเลียน riff ของเพลงบลูส์ที่เขาเคยได้ยิน เขาผสมผสานอารมณ์เพลงของต้นฉบับ เข้ากับสไตล์ การเล่นกีต้าร์เฉพาะตัวของเขา จึงทำให้ Eric สามารถขยายคำจำกัดความ ของการเล่นกีต้าร์เพลงบลูส์ แต่ละอัลบั้มที่วางจำหน่ายหลังจากอัลบั้ม 461 Ocean Boulevard Eric ได้นำเสนอดนตรีรูปแบบใหม่เสมอมา ตลอดช่วงทศวรรษที่ 70 และช่วงต้นยุคทศวรรษที่ 80 Eric ได้ออกอัลบั้มและเดินสายเปิด การแสดงทั่วโลก อย่างไม่ขาดสาย ในปี 2528 เขาได้พบกับกลุ่มผู้ฟัง กลุ่มใหม่ที่ตามชมการแสดง ของเขา ในการทัวร์คอนเสิร์ต การกุศลทั่วโลกที่ชื่อว่า Live Aid การแสดงที่ Royal Albert Hall และการมีอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากมาย ตัวอย่างเช่นอัลบั้ม August, Journeyman และ Crossroads ทำให้ Eric กลายเป็นที่จดจำ ของสาธารณชน ในช่วงปลายของยุค 80 เขาได้สร้างชื่อให้กับตัวเองอีกครั้ง ในฐานะผู้ประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์ อาชีพการงานของเขา มั่นคงขึ้นเรื่อยๆและขึ้นสู่จุดสูงสุดในปี 2535 เมื่อเขาออกอัลบั้ม ใน 40 กว่าปีที่อยู่ในวงการมา Eric Clapton ได้รางวัลมากมาย เขาเป็นนักร้องคนเดียวที่ได้มีชื่ออยู่ในสมาชิกของรางวัล the Rock & Roll Hall Of Fame (ในฐานะของวง The Yardbirds และวง Cream และในฐานะนักร้องเดี่ยว)

[แก้] ที่มาของฉายาว่า SLOWHAND

ผู้จัดการของวง The Yardbirds คุณ Giorgio Gomelsky เป็นคนตั้งฉายาให้ Eric ว่า “Slowhand” ช่วงต้นปี 1964 นักกีตาร์ที่ชื่อ Yardbirds ของ Chris Dreja กล่าวว่า เมื่อใดก็ตามที่ Eric ทำสายกีตาร์ขาดขณะเล่นคอนเสิร์ต บนเวที เขาก็จะยืนรอจนกว่าจะมีคนเอากีตาร์ตัวใหม่มาให้ ผู้ชมก็น่ารักมาก จะตบมือช้าๆ รอไปด้วย เรียกว่า “slow handclap” Eric บอกกับ Ray Coleman คนเขียนประวัติส่วนตัวของเขาว่า ชื่อเล่น Slowhand ของเขาได้มาจาก Giorgio Gomelsky เขาสร้างคำที่มีความหมายสองนัย ขึ้นมา เขาบอกอยู่เสมอว่าผมเป็นคนเล่นกีตาร์เร็ว เขาจึงนำเอาประโยค handclap ช้าๆเข้าไปไว้ใน Slowhand เพื่อเล่นคำกัน

[แก้] รางวัล

CBE และ OBE: รางวัลแห่งเกียรติยศที่ได้รับจากราชวงศ์ ถึงแม้ Eric Clapton ะไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัศวินโดยสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ก็ตาม แต่เขาก็ยังรับรางวัลจากพระองค์ถึง 2 รางวัลด้วยกัน

ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ปี 2547 ที่งานมอบรางวัลซึ่งจัดขึ้นที่พระราชวัง Buckingham เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Commander of the Order of the British Empire หรือ CBE ซึ่งงานมีเจ้าหญิง Anne เป็นผู้ดำเนินงาน ซึ่งผู้ที่จะได้รับการเชิญเข้างานนี้โดยสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 นั้นได้รับการแจ้งล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม ปี 2546

ในปี 2537 สมเด็จพระราชินีได้แต่งตั้งให้เขาเป็น Officer of the Order of the British Empire (OBE) สำหรับสิ่งที่เขาอุทิศ ให้กับวิถีชีวิตแบบอังกฤษ และถ้าหากเขาได้รับการแต่งตั้งอีกครั้ง ในครั้งนี้เขาจะได้เป็น อัศวิน และเขาจะได้รับการเรียกว่า Sir Eric Clapton

[แก้] ผลงานเดี่ยว

  • Crossroads (Polydor Records), 1988
  • 24 Nights (Reprise Records), 1991
  • Unplugged (Reprise Records, 1992
  • From The Cradle (Reprise Records), 1994
  • Pilgrim (Reprise Records), 1998
  • Chronicles (Reprise Records), 1999
  • Riding With The King (Reprise Records), 2000
  • Reptile (Reprise Records), 2001
  • One More Rider One More Car (Duck Records), 2002
  • Me and Mr. Johnson (Warner Bros / Wea), 2004
  • Sessions For Robert J. (Warner Bros / Wea), 2004
  • Back Home (Warner Bros / Wea) (August 30, 2005)

[แก้] ลิงก์ภายนอก