ซามูไรทรูปเปอร์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ซามูไรทรูปเปอร์ | |
---|---|
![]() |
|
ชื่อไทย | ซามูไรทรูปเปอร์ |
ชื่อญี่ปุ่น | 鎧伝サムライトルーパー |
ชื่ออังกฤษ | Ronin Warriors |
แนว | โชเน็น, ต่อสู้ |
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์ |
|
ผู้กำกับ | มาซาชิ อิเคดะ |
ผลิตโดย | ซันไรส์ |
ฉายทาง | นาโงยะ ทีวี, ทีวีอาซาฮี |
ฉายครั้งแรก | 30 เมษายน 1988 – 4 มีนาคม 1989 |
จำนวนตอน | 39 |
![]() |
ซามูไรทรูปเปอร์ (「鎧伝サムライトルーパー」 Yoroiden Samurai Torūpā?) เป็น การ์ตูนญี่ปุ่น แต่งโดย ยาทาเตะ ฮาจิเมะ ผลิตโดยบริษัท ซันไรส์ ออกอากาศที่ ประเทศญี่ปุ่น ทาง สถานีนาโงยะ ทีวี และ ทีวีอาซาฮี ทุกวันเสาร์ เวลา 17.30-18.00 น. ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1988 ถึง 4 มีนาคม ค.ศ. 1989 มีความยาวทั้งสิ้น 39 ตอน และต่อมาได้ถูกสร้างเป็น โอวีเอ อีก 3 ภาคด้วยกัน
ซามูไรทรูปเปอร์ มีชื่อภาคภาษาอังกฤษว่า en Ronin Warriors ถูกแปลจากต้นฉบับ ญี่ปุ่น โดยบริษัทเกรซ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ออกอากาศที่ สหรัฐอเมริกา ทางช่องการ์ตูนแนวไซไฟของการ์ตูนเน็ตเวิค ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1995 ถึง 17 สิงหาคม ค.ศ. 1995 และออกจำหน่ายในรูปแบบ DVD ในปี 2003 โดยยังคงลักษณะของต้นฉบับญี่ปุ่นทุกประการ โดยมีการปรับเปลี่ยนในภาคภาษาอังกฤษเล็กน้อยโดยยังคงเทียบกับต้นฉบับเดิม
ใน ประเทศไทย ซามูไรทรูปเปอร์ เคยออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เมื่อปี 2532 ทุกเย็นวันจันทร์ เวลาประมาณ 18:00 - 18:30 น. ปัจจุบันในประเทศไทย ได้จัดทำ VCD การ์ตูนซามูไรทรูปเปอร์ จำนวน 19 แผ่น (ตอนที่ 1 – 19 และตอนพิเศษ จิตวิญญาณแห่งนักรบ <夊ふゆがしら>) ราคาแผ่นละ 129 บาท ลิขสิทธิ์แท้จากประเทศญี่ปุ่น ผลิตเมื่อเดือนมีนาคม 2548 บริษัท การ์ตูนอินเตอร์ จำกัด ผู้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และจัดจำหน่ายโดย บริษัท พีรามิด ดิจิตอล จำกัด
ซามูไรทรูปเปอร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหนุ่มทั้ง 5 ต่างที่มาและต่างจิตใจ ผู้สวมชุดเกราะ โยโร่ยเกียร์ เกราะเกียร์ในตำนาน ต่อสู้กับจอมปีศาจอาราโกและเหล่าปีศาจร้าย เพื่อปกป้องโลกมนุษย์ ซึ่งเป็น 1 ในผลงานที่ได้รับอิทธิพลมาจาก เซนต์เซย่า อีกทั้งยังออกอากาศในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ ซามูไรทรูปเปอร์ ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในสมัยนั้น ตัวละครในเรื่องได้แรงบันดาลใจจากยุค สงคราม ญี่ปุ่น ในสมัย เอโดะ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในยุคของ โอดะ โนบุนากะ (織田信長) ขุนพลนักรบผู้เป็นตำนานแห่ง ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น พร้อมด้วยเหล่านักรบ ซามูไร ทั้ง 4 คือ
- ซานาดะ ยูคิมูระ(真田幸村)
- ดาเตะ มาซามูเนะ (伊達政宗)
- โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (豊臣秀吉)
- โมริ โมโตนาริ (毛利元就)
สารบัญ |
[แก้] เนื้อเรื่อง
เกราะเกียร์ เป็นชุดเกราะในตำนานของเหล่า ซามูไรทรูปเปอร์ ที่กล่าวขานกันว่าสามารถช่วยปกป้องโลกจากจอมปีศาจอาราโกได้ ศาสตราจารย์ยางิว เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี ทำการศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับเกราะเกียร์ในตำนาน โดยมี ยางิว นาสตี้ หลานสาวเป็นผู้ช่วยที่สถาบันวิจัย ศาตราจารย์ยางิว สามารถค้นพบแหล่งที่ซ่อนของชุดเกราะในตำนาน ในขณะเดียวกัน จอมปีศาจอาราโก ก็ได้ฟื้นคืนชีพจากการผนึกของคาออสเมื่อพันปีก่อน ทำให้มีพลังปีศาจมากยิ่งขึ้นพร้อมกับส่งสมุนปีศาจออกอาละวาดทั่ว ญี่ปุ่น ทำให้ผู้คนต่างพากันหลบหนีและถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก
ยามาโนะ จุน เป็นหนึ่งในผู้ที่รอดชีวิตจากการตามล่าของเหล่าสมุนปีศาจ พ่อแม่ของจุนถูกจับตัวไป ที่สถาบันวิจัยถูกเหล่าสมุนปีศาจเข้าเล่นงานเช่นกัน ศาสตราจารย์ยางิวได้ค้นพบปริศนาการปรากฎตัวของเหล่าซามูไรทรูปเปอร์ ผู้กล้าที่จะมาต่อสู้กับเหล่าปีศาจร้ายแต่ถูกเหล่าสมุนปีศาจฆ่าตายเสียก่อน นาสตี้หลบหนีออกจากสถาบันวิจัยได้และได้พบกับจุนที่กำลังหนีการตามล่าของเหล่าสมุนปีศาจ นาสตี้ได้ช่วยชีวิตจุนไว้และพากันหลบหนี ในขณะเดียวกันที่ย่านชินจุกุ ได้มีเด็กหนุ่มลึกลับเดินอยู่กลางถนนพร้อมกับเสือขาวตัวโต สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนที่กำลังขวัญเสียเป็นอย่างมาก
ซานาดะ เรียว เด็กหนุ่มลึกลับเข้าช่วยเหลือจุนและนาสตี้ เรียวต่อสู้กับเหล่าสมุนปีศาจและในขณะที่กำลังเสียท่านั้น ก็ปรากฎเด็กหนุ่มลึกลับอีก 4 คนเข้าช่วยเหลือและได้แปลงร่างโดยสวมชุดเกราะเข้าต่อสู้กับเหล่าสมุนปีศาจ ทำให้นาสตี้ดีใจมากที่ได้พบกับเหล่าผู้กล้าในตำนานที่ปู่ของเธอกำลังศึกษาค้นคว้าอยู่ ขณะที่เหล่าซามูไรทรูปเปอร์ทั้ง 5 รวมตัวกันต่อสู้กับเหล่าสมุนปีศาจที่ออกอาละวาดและกำลังจะยึดครองเมือง ขุนพลปีศาจ ชูเท็นโดจิ ก็ปรากฎกายขึ้น ทำให้ทรูปเปอร์ทั้ง 5 คนเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แม้ว่า คาออส นักบวชลึกลับจะเข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทัน แต่เมื่อจอมปีศาจอาราโก แสดงพลังที่แท้จริงออกมา ทำให้ซามูไรทรูปเปอร์ทั้ง 5 ถูกพัดกระเด็นหายไป
นาสตี้และจุนได้ออกตามหาเหล่าซามูไรทรูปเปอร์โดยอาศัยข้อมูลที่ศาสตราจารย์ยางิวศึกษาและค้นคว้าไว้ ปริศนาที่ซ่อนและเหล่าทรูปเปอร์ค่อย ๆ ถูกนาสตี้แกะออกมาทีละคน โดยที่เรียวนั้นถูกปีศาจอาราโกพัดไปตกอยู่ที่ปล่อง ภูเขาไฟฟูจิ ในขณะที่นาสตี้และจุนกำลังช่วยเหลือเรียวจากปล่องภูเขาไฟ แต่ก็ต้องพบกับการจู่โจมของชูเท็น ที่รอคอยโอกาสที่นาสตี้และจุนช่วยเหลือเรียวออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟฟูจิ เรียวต่อสู้กับชูเท็นและถูกผลักตกลงไปในปากปล่องภูเขาไฟอีกครั้งและตกลงไปในบ่อ แม็กม่า แต่ด้วยความร้อนแรงของแม็กม่า ทำให้เกราะเร็กกะ ฟื้นพลังกลับมาอีกครั้ง
หลังจากช่วยเหลือเรียวได้สำเร็จ ทั้งหมดพากันกลับไปยังสถาบันวิจัยของศาสตราจารย์ยางิวอีกครั้งเพื่อร่วมกันค้นหาเหล่าทรูปเปอร์ที่เหลือ แต่ก็ต้องพบกับเหล่า สมุนปีศาจ และขุนพลปีศาจ นาสะ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ขุนพลของจอมปีศาจอาราโก เรียวต่อสู้กับนาสะจนชนะและช่วยกันสืบหาร่องรอยของ ดาเตะ เซจิ ที่นาสตี้สามารถแกะปริศนาพบว่า เซจินั้นหลับอยู่ภายในอุโมงค์ อาคิโยชิ เรียว พร้อมด้วยนาสตี้และจุนเดินทางมายังอุโมงค์อาคิโยชิเพื่อช่วยเหลือเซจิ แต่ก็ถูกขัดขวางโดยนาสะที่ดักรออยู่ที่ปากอุโมงค์ เรียวถูกพิษร้ายของนาสะทำให้ตามองไม่เห็น นาสตี้และจุนถูกนาสะจับตัวไว้ เรียวหนีเข้าไปในอุโมงค์และพบกับเซจิที่หลับอยู่ภายในอุโมงค์ แต่ด้วยสภาพตามืดบอดทำให้เรียวไม่สามารถเอาชนะเหล่าสมุนปีศาจและนาสะได้ แต่ด้วยความผูกพันระหว่างเหล่าทรูปเปอร์ เรียวสามารถปลุกเซจิให้ตื่นจากการหลับใหลได้สำเร็จ และสามารถเอาชนะนาสะได้
แสงสว่างแห่งโคริน สามารถทำให้นัยน์ตาที่มืดมินของเรียวกลับมามองเห็นได้อีกครั้งหนึ่ง เหล่าทรูปเปอร์ที่ถูกพัดกระจัดกระจายด้วยพลังปีศาจของจอมปีศาจอาราโก ได้รวมตัวกันเพื่อออกตามหาเหล่าทรูปเปอร์ที่เหลืออยู่ เซจิและนาสตี้แยกทางกับเรียว โดยเซจิและนาสตี้ออกเดินทางตามหา ชู เร ฟาน และ ฮาชิบะ โทมะ ส่วนเรียวออกเดินทางตามหาชิน ซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ในน้ำวนบริเวณช่องแคบ นารุม่อน แต่ก็โดนนาสะตามมาขัดขวางอีก เรียวลงไปต่อสู้ใต้น้ำกับนาสะ แต่การต่อสู้ใต้น้ำทำให้เรียวเป็นฝ่ายเสียเปรียบ นาสะใช้พิษร้ายทำให้ปลาในบริเวณช่องแคบนารุม่อนตายเป็นจำนวนมากจนทำให้ โมริ ชิน ที่หลับไหลอยู่ในน้ำวน ตื่นขึ้นมาด้วยความโกรธแค้นเข้าร่วมต่อสู้กับเรียวจนเอานาสะได้สำเร็จ
เซจิและนาสตี้ เดินทางไปยังภูเขา โอยูกิ เพื่อตามหาชู เรฟาน ซึ่งหลับอยู่ที่นั่น แต่พวกเขาก็เผชิญกับการโจมตีของเหล่าสมุนปีศาจและขุนพลปีศาจ อานุบิสึ เซจิต่อสู้เพื่อปกป้องนาสตี้ ทำให้เขาต้องฝึกท่าไม้ตายดาบสายฟ้าให้สำเร็จภายในระยะเวลากระชั้นชิด เพื่อสามารถเอาชนะอานุบิสึและปลุกชูให้ตื่นจากการหลับอยู่ภายในก้อนหินยักษ์ เซจิเอาชนะอานุบิสึและได้ชูเพิ่มอีก 1 คน ส่วนทางด้านเรียวและชินถูกขุนพลปีศาจ ราจูร่า หลอกว่าโทมะนั้นถูกจับจับตัวไว้ที่ ฮาชิดาเตะ แต่ทว่าเมื่อเรียวและชินไปยังฮาชิดาเตะ กลับพบเซจิและชูแทน ด้วยวิชาภาพมายาของราจูร่า ทำให้เหล่าทรูปเปอร์ต้องต่อสู้กันเอง และในขณะนี้เหล่าทรูปเปอร์กำลังตามหาสมาชิกคนสุดท้ายที่ยังคงหลับใหลอยู่ จอมปีศาจอาราโกก็สร้าง กระสุนมาร ขึ้นมา เพื่อหมายที่จะกำจัดโทมะก่อนที่เหล่าซามูไรทรูปเปอร์จะปลุกโทมะให้ตื่นขึ้นมา
กระสุนมารของจอมปีศาจ ทำให้เหล่าทรูปเปอร์ต้องหาทางยับยั้งกระสุนมารไม่ให้ทำลายโทมะได้สำเร็จ ทั้งหมดต่อสู่กับขุนพลปีศาจที่พยายามขัดขวางการตื่นของโทมะ จนเกือบพลาดท่าเสียทีเหล่าขุนพลปีศาจ แต่ในที่สุดซามูไรทรูปเปอร์ทั้งหมดก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง เวลาแห่งการตัดสินระหว่างนักรบทั้ง 5 และราชาแห่งโลกปีศาจใกล้เข้ามาทุกขณะ แต่ในระหว่างที่ทั้งหมดกำลังปรึกษาหารือในการต่อสู้ ประตูอสูร ขนาดใหญ่กลับปรากฎขึ้นที่ใจกลางกรุง โตเกียว กองทัพปีศาจขนาดยักษ์ได้บุกเข้าสู่ในกลางย่าน ชินจุกุ พร้อมกับการปรากฎตัวของอานุบิสึ ผู้มีพลังแห่งความมืดอันแรงกล้า แต่เซจิแห่งโคริน ก็สามารถใช้พลังแห่งแสงสว่างโคริน ขับไล่ความมืดที่ชั่วร้ายที่กำลังจะครอบงำโลกได้สำเร็จ
ซามูไรทรูปเปอร์ ทั้ง 5 คนต่อสู้กับเหล่าสมุนปีศาจและขุนพลปีศาจจนสามารถเอาชนะได้ แต่ก็ต้องมาติดกับดักอันชั่วร้ายของเหล่าขุนพลปีศาจทั้ง 4 ทำให้ต้องแยกย้ายกระจัดกระจายกันไปอยู่ในโลกมายาของ เมืองปีศาจ และในระหว่างการต่อสู้อันดุเดือน ความลับอันน่าตกใจของเกราะเกียร์ทั้งหมด ก็ถูกเปิดเผยออกมา ชูเท็นพลาดท่าเสียทีเหล่าทรูปเปอร์ ทำให้จอมปีศาจเจ็บแค้นมาก จึงใช้พลังปีศาจทำให้ชูเท็นกลายเป็นเครื่องจักรสังหาร เข้าต่อสู้กับเหล่าทรูปเปอร์ แต่เดิมนั้นชูเท็นไม่เห็นด้วยกับแผนการหลาย ๆ อย่างของโลกปีศาจ แต่เขาถูกกลับทำให้กลายเป็นเครื่องจักรสังหาร จิตใจฝ่ายดีของเขากำลังต่อสู้กับตัวตนภายนอก ทำให้ไม่สามารถเอาชนะเหล่าทรูปเปอร์ได้ ในที่สุดเหล่าทรูปเปอร์ก็บุกมาจนถึง ปราสาท ของอาราโก
หลังจากบุกมาจนถึงปราสาทของอาราโก แต่ไม่ว่าพวกเขาจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถฝ่าด่านประตูเข้าไปยังภายในของปราสาทได้ ในขณะที่สถานการณ๋กำลังย่ำแย่อยู่นั้น ก็ปรากฎร่างของชายลึกลับผู้หนึ่งขึ้นมาเข้าช่วยเหลือเหล่าทรูปเปอร์ ทำให้สามารถเข้าไปยังภายในปราสาทได้สำเร็จ แต่ก็พบกับขุนพลปีศาจอีก 3 คนคือนาสะ ราจูร่าและอนุบิสึ ไร้วี่แววของชูเท็น ระหว่างการต่อสู้เหล่า 3 ขุนพลปีศาจได้รับพลังอันชั่วร้ายมาจากเหล่าวิญญาณทมิฬที่คอยช่วยเหลืออยู่ เหล่าทรูปเปอร์บุกตะลุยฝ่าด่านเหล่าขุนพลปีศาจจนมาพบกับจอมปีศาจ เกิดการต่อสู้ห้ำหั่นกันอย่างดุเดือน แต่ในที่สุดการต่อสู้ระหว่างเหล่าทรูปเปอร์และจอมปีศาจก็ถึงจุดแตกหัก เมื่อเหล่านักรบผู้ผดุงความยุติธรรมทั้ง 5 สามารถรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว ทว่าในตอนนั้นเองความลับอันน่าตกตะลึงของเกราะเกียร์ก็ถูกเปิดเผย
เกราะเกียร์ของเหล่าซามูไรทรูปเปอร์และเกราะเกียร์ของเหล่าขุนพลปีศาจ!!! ถือกำเนิดออกมาจากจอมปีศาจอาราโก โดยที่เกราะเกียร์ของเหล่าทรูปเปอร์นั้น ได้ถูกคาออส ใช้พลังสะกดแยกออกจากเกราะของเหล่าขุนพลปีศาจ ทำให้จอมปีศาจได้เพียงเกราะเกียร์ 4 เกราะของเหล่าขุนพลปีศาจเท่านั้น ขณะนั้นเองร่างยักษ์ของจอมปีศาจก็ฟื้นคืนชีพจากเมื่อหลายพันปีก่อน แถมยังดูดเอาพลังของเกราะเกียร์ของเหล่าทรูปเปอร์และขุนพลปีศาจ เข้าไปไว้ในตัวของมันเองเพื่อเป็นการเพิ่มพลังปีศาจ เหลือเพียงแต่เรียวคนเดียวที่ยังรอดชีวิตอยู่ แต่ด้วยเพียงคนเดียวทำให้เรียวไม่สามารถต่อสู้กับจอมมารและเอาชนะกับร่างยักษ์ที่มีพลังจากเกราะเกียร์ได้
ซามูไรทรูปเปอร์ทั้ง 4 คน ที่ถูกจอมปีศาจอาราโกดูดเข้าไปไว้ในตัวเพื่อเพิ่มพลัง ได้รวมพลังกันเพื่อเปิดช่องว่างให้เรียวเข้าจู่โจมจอมปีศาจ แต่เรียวไม่สามารถทำร้ายจอมปีศาจได้เพราะเพื่อน ๆ อยู่ภายในตัวของจอมปีศาจ ทุกคนจึงรวมพลังเป็นหนึ่งส่งผ่านชุดเกราะให้กับเรียว เกิดเป็น ชุดเกราะคิโคเท และจอมปีศาจอาราโกก็พ่ายแพ้แก่พลังแห่งธรรมะ ชัยชนะเป็นของเหล่าซามูไรทรูปเปอร์ แต่ทว่าจู่ ๆ ประตูอสูรก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ซาลัมโบ ปีศาจร้ายอีกตนหนึ่ง อาศัยช่องว่างระหว่างโลกมนุษย์และโลกปีศาจที่จอมมารเปิดไว้ แทรกซึมเข้ามายังโลกมนุษย์ โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่เกราะเกียร์ของเหล่าซามูไรทรูปเปอร์ ทำให้เหล่าซามูไรทรูปเปอร์ทั้ง 5 ที่มีเรียวซึ่งบาดเจ็บจากการต่อสู้ เข้าต่อกรกับซาลัมโบที่มีฝีมือเทียบเท่ากับจอมปีศาจอาราโก
ในการต่อสู่กับซาลัมโบ เรียวแปลงร่างโดยสวมชุดเกราะคิโคเท แต่ด้วยพลังอันแรงกล้าของเกราะสีขาว ทำให้ดาบแห่งเร็กกะซึ่งตรากตรำศึกมาอย่างหนัก ไม่อาจต้านทานพลังปีศาจต่อไปได้ ดาบแห่งเร็กกะหักสะบั้นในการต่อสู้ เหล่าทรูปเปอร์ทั้ง 4 พยายามหาดาบเล่มใหม่ให้แก่เรียว ทั้งหมดจึงมุ่งหน้าไปยังภูเขาไฟฟูจิ แต่ ณ ที่นั่น พวกเขากลับพบกับความน่าสะพรึงกลัวของศักตรูคนใหม่ ที่รอคอยพวกเขาอยู่
เบียคุเอ็น พยายามเข้าช่วยเหลือเรียวในการแย่งชิง ดาบโกเร็ตซึ แต่ทว่ามันกลับต้องมาเผชิญหน้ากับพยัคฆ์ทมิฬ โคคุเอ็นโอ ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องดาบโกเร็ตซึ เบียคุเอ็นเข้าต่อสู้เพื่อแย่งชิงดาบมาให้แก่เรียว แม้ตัวเองจะบาดเจ็บอย่างหนัก เหล่าสมุนปีศาจต่างทยอยดาหน้ากันออกมาต่อกรกับเหล่าซามูไรทรูปเปอร์ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่เกราะสีขาวของเรียว ซึ่งหนึ่งในสมุนปีศาจคือนักรบฝีมือเยี่ยม แต่ทว่าลักษณะการต่อสู้ของนักรบลึกลับนั้น กลับมีบางสิ่งบางอย่างซ่อนเร้นอยู่
ความลับของเกราะเกียร์ยังคงไม่กระจ่าง นักบวชลึกลับคาออสผู้จากไป ได้มาเข้าฝันชินแห่งซุยโคะ ทำให้ชินตัดสินใจออกเดินทางเพื่อค้นหาความจริง แต่แล้วเขากลับต้องมาเผชิญหน้ากับชุดเกราะซุยโคะอีกชุดหนึ่ง ทำให้ปริศนาที่ยังคงหลงเหลืออยู่และพลังที่ซ่อนเร้นอยู่นั้นเป็นพลังปีศาจหรือไม่ เซจิเองก็ค้นหาความเป็นจริงเช่นกัน เขาเดินทางไปยังถ้าอากิโยชิเพื่อค้นหาปริศนาตามที่คาออสได้บอกไว้ แต่ผู้ที่รอคอยเขาอยู่นั้นกลับกลายเป็นคู่ปรับเก่าอย่างอานูบิสึ ทำให้เซจิที่กำลังสับสนใจพลังของตัวเอง เข้าต่อสู้กับอานูบิสึเพื่อค้นหาปริศนา
การใช้พละกำลังเข้าบดขยี้ศัตรู อาจไม่ใช่วิถีแห่งชัยชนะเสมอไป คราวนี้ถึงคราวของชู ที่จะต้องพยายามค้นหาคำตอบให้แก่การต่อสู้ของตนเองตามปริศนาธรรมที่คาออสผู้ล่วงลับไปแล้วทิ้งเอาไว้ ซึ่งโทมะเองก็ได้รับปริศนาจากคาออสเช่นกัน แต่ด้วยสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดทำให้เขาสามารถไขปริศนาของคาออสและจัดการกับเหล่าสมุนปีศาจได้อย่างง่ายดาย แต่จู่ ๆ ก็ปรากฎร่างของปีศาจที่มีพลังในการต่อสู้สูงส่ง แถมมันยังไม่ใช่เหล่าขุนพลปีศาจทั้ง 4 ที่เคยต่อสู้ด้วย
ในขณะที่เพื่อน ๆ ออกค้นหาปริศนาตามที่คาออสได้บอกไว้ เรียวกลับตัดสินใจที่จะบุกตะลุยเข้าไปในโลกปีศาจ แต่โทมะกลับไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเรียว และในระหว่างที่ทั้งคู่ยังตกลงกันไม่ได้นั้น ได้ปรากฎขุนพลปีศาจคนที่ 5 คือ คายูร่า เข้าโจมตีทั้งคู่ เหล่าทรูปเปอร์ที่แยกกระจัดกระจายทำให้ทั้งสองไม่สามารถจัดการกับคายูร่าและบุกฝ่าเข้าไปในโลกปีศาจได้ เรียวได้ค้นพบกับมิติแปลกประหลาด ภาพของทะเลสาปที่มีดอกไม้ขึ้นอยู่เต็มไปหมด ออกดอกบานสะพรั่งแถมยังมีท้องฟ้าสีทองที่ประดับประดาไปด้วยดวงจันทร์ทั้ง 7 ดวง ทำให้เรียวกลับแปลกใจว่าที่แบบนี้น่ะหรือคือโลกปีศาจ!!!
เรียวและโทมะบุกเข้าไปในปราสาทของจอมปีศาจอาราโกได้สำเร็จ เรียวต่อสู้กับ แม่ทัพปีศาจดาร่า ที่บุกเข้าจู่โจมเรียวอย่างดุเดือดด้วยดาบที่สามารถสะท้อนพลังการต่อสู้ได้ทุกรูปแบบ เรียวและโทมะต่างพากันต่อสู้เพื่อบุกฝ่าเข้าไปยังภายในของปราสาท แต่ผู้ที่รอคอยทั้งคู่อยู่คือขุนพลปีศาจทั้ง 3 และคายูร่า ภายในโลกปีศาจการต่อสู้เต็มไปด้วยความดุเดือด แม้เหล่าทรูปเปอร์อีก 3 คนยังคงไขปริศนาของคาออสไม่สำเร็จ จุนและนาสตี้ที่คอยช่วยเหลือเหล่าทรูปเปอร์ ได้พบกับบุคคลลึกลับที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ...
ชูเท็นโดจิ อดีตขุนพลปีศาจของจอมปีศาจอาราโก หลังจากจิตใจฝ่ายคุณธรรมของเขา เอาชนะความชั่วร้ายของอาราโกที่เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่ไร้จิตใจ ชูเท็นหลบหนีไปจนเจอกับคาออส คาออสได้ให้ข้อคิดแก่ชูเท็น ทำให้เขาตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตนเองจากฝ่ายอธรรมมาเป็นคุณธรรม และเข้าช่วยเหลือจุนและนาสตี้ตรวจสอบเรื่องราวและตำนานของเกราะเกียร์ที่จะใช้ในการไขปริศนาทั้งหมด และในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจออกเดินทางเพื่อตามล่าหาสมบัติปริศนาที่อาจจะผลิกผันโฉมหน้าของการต่อสู้ไปตลอดกาล
ในโลกปีศาจ เรียวสามารถฝ่าด่านต่าง ๆ เข้าไปสู่ใจกลางปราสาทของจอมปีศาจได้สำเร็จ แต่เขาก็ต้องมาพบกับคายูร่าผู้เก่งกาจพร้อมด้วยแผนการต่อสู้ที่แยบยล คายูร่าทำให้พลังเกราะเกียร์สีขาวของเรียวสูญหายไป โทมะเข้ามาช่วยเรียวแต่ก็ไม่อาจต้านทานพลังและฝีมือของคายูร่าได้ จุน นาสตี้และชูเท็นสามารถไขกุญแจปริศนาในการกำจัดจอมปีศาจอาราโกได้สำเร็จ แต่เหล่าสมุนปีศาจก็ตามมาขัดขวางพวกเขาอีก ในการต่อสู้กับคายูร่า ทำให้โทมะต้องต่อสู้อย่างเหน็ดเหนื่อยและยากลำบาก การต่อสู้ดำเนินการไปจนถึงขีดสุด ซามูไรทรูปเปอร์ทั้ง 3 ที่ออกค้นหาปริศนาและพบคำตอบ ได้เข้ามาช่วยเหลือเรียวและโทมะในการต่อสู้
การต่อสู้เป็นไปอย่างยากลำบาก ทั้งหมดเหน็ดเหนื่อยและเริ่มอ่อนแรง คายูร่าฉวยโอกาสนี้ทำให้เหล่าทรูปเปอร์พ่ายแพ้ แต่ด้วยความช่วยเหลือจากคฑาของคาออสที่ชูเท็นยื่นมือเข้ามาช่วย บวกกับศิลาหยดน้ำของจุน ทำให้เหล่าทรูปเปอร์สามารถฟื้นพลังกลับมาได้อีกครั้งจนสามารถเอาชนะคายูร่าและขุนพลปีศาจทั้ง 3 ได้ แต่หนทางการเข้าสู่ปราสาทของจอมปีศาจอาราโกกลับมืดมนลงอีกครั้ง เมื่อวิญญาณของ นักบวชทมิฬบาดาม่อน เข้าสิงร่างคายูร่าและเข้าต่อสู้กับซามูไรทรูปเปอร์อย่างบ้าคลั่ง สร้างความพ่ายแพ้ให้แก่เหล่าทรูปเปอร์ ทำให้ชูเท็นตัดสินใจสวมเกราะเกียร์เข้าต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง
แต่พลังปีศาจของคายูร่าแรงกล้ามาก ในการต่อสู้ชูเท็นพยายามปลุกจิตใจที่ดีงามของคายูร่าภายใต้การบงการของบาดาม่อนให้กลับคืนเช่นเดิม และในที่สุดศึกตัดสินขั้นสุดท้ายก็มาถึง นักรบแห่งคุณธรรมทั้ง 5 สามารถรวบรวมพลังและจิตใจอันแข็งแกร่งให้เป็นหนึ่งเดียว กำจัดจอมปีศาจอาราโกได้สำเร็จและนำแสงสว่างกลับมาสู่จิตใจของเหล่ามนุษย์ได้สำเร็จ
[แก้] ตัวละคร
[แก้] ตัวละครหลัก
- ซานาดะ เรียว (真田 遼) หรือ เร็กกะ เรียว (烈火のリョウ)
- เกิด 15 สิงหาคม ค.ศ. 1973 ที่จังหวัด ยามานาชิ กรุ๊ปเลือด O
- เรียว แห่งเร็กกะ คือนักรบผู้สวมชุดเกราะเร็กกะ (เปลวเพลิง) ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก คุณธรรม เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณแห่งความเมตตาและ ความรัก เป็นคุณสมบัติประจำกาย ใช้ ดาบ คู่ เป็นอาวุธ (殳るまた) มีท่าไม้ตายคือ ดาบคู่อัคนี เรียวเป็นเด็กหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาในชนบท เขาจึงไม่ค่อยคุ้นเคยกับการคบหาสมาคมกับผู้อื่นเท่าไรนัก แต่ก็เป็นคนที่รักและห่วงเพื่อนมาก เรียวเป็นนักสู้ที่มีอุปนิสัยซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมาและอารมณ์ร้อน งานอดิเรกคือเดินเล่นบนภูเขา ชอบเล่นกีฬา ฟุตบอล ไม่ชอบน้ำแข็งไส และน้ำแข็ง (冫にすい) ทุกประเภท ภายหลังได้เป็นผู้สวมชุดเกราะคิโคเท
- ชู เร ฟาน (秀麗黄) หรือ คองโก ชู (金剛のシュウ)
- เกิด 1 กันยายน ค.ศ. 1973 ที่จังหวัด คานางาวะ กรุ๊ปเลือด O
- ชู แห่งคองโก คือนักรบผู้สวมชุดเกราะคองโก (ปฐพี) ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก ความเที่ยงธรรม เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณแห่งความเที่ยงธรรม (GI) เป็นคุณสมบัติประจำกาย ใช้ ง้าว เป็นอาวุธ (殳るまた) ชูเป็นลูกหลานของนักรบจีนที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยจิ๋น ภายนอกแม้จะดูใจร้อน มุทะลุแต่ชูก็รักเพื่อน และเป็นผู้ที่มีศิลปะในการต่อสู้เป็นเลิศ
- ดาเตะ เซจิ (伊達征士} หรือ โคริน เซจิ (光輪のセイジ)
- เกิด 9 มิถุนายน ค.ศ. 1973 ที่จังหวัด มิยางิ กรุ๊ปเลือด B
- เซจิ แห่งโคริน คือนักรบผู้สวมชุดเกราะโคริน (แสงสว่าง) ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก ความนอบน้อม เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณแห่งความนอบน้อม เป็นคุณสมบัติประจำกาย ใช้ ดาบยาว เป็นอาวุธ (殳るまた) ชุดเกราะโครินเปรียบเสมือนจิตใจอันบริสุทธิ์ที่นำพาผู้คนออกจากความมืดมิด เซจินั้นเป็นนักรบที่สง่างามที่สุดในกลุ่มทรูปเปอร์ทั้ง 5 เป็นผู้ที่มีอุปนิสัยที่นอบน้อม ตรงข้ามกับท่าไม้ตายคือดาบอัศนีบาต ที่แสดงพลานุภาพอันดุดัน ดาเตะ เซจิ ได้ภาพลักษณ์มาจาก ดาเตะ มาซามูเนะ ฉายา มังกรตาเดียว ซึ่งเซจิได้แนะนำตัวว่าเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากมาซามูเนะกับจุน และมาซามูเนะเป็นหนึ่งในขุนพลยุคเซกิงาฮาร่า
- โมริ ชิน (毛利 伸) หรือ ซุยโคะ ชิน (水滸のシン)
- เกิด 14 มีนาคม ค.ศ. 1973 ที่จังหวัด ยามางุจิ กรุ๊ปเลือด A
- ชิน แห่งซุยโคะ คือนักรบผู้สวมเกราะซุยโคะ (สายน้ำ) ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก ความเชื่อมั่น เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณแห่งความเชื่อมั่น เป็นคุณสมบัติประจำกาย ใช้ หอกสามง่าม (矛ほこへん) เป็นอาวุธ (殳るまた) จุดเด่นในการต่อสู้ของชิน คือการใช้พลังที่อ่อนโยนและแข็งแกร่งของสายน้ำต่อสู้กับศัตรู ชินมีอุปนิสัยสงบนิ่ง เยือกเย็นและมีจิตใจที่ดีงาม มีท่าไม้ตายคือพลังคลื่นน้ำวน ที่ทรงพลานุภาพ ซึ่งตระกูลโมริก็เป็นขุนศึกเซกิงาฮาร่าเช่นเดียวกัน
- ฮาชิบะ โทมะ (羽柴当麻) หรือ เท็นคู โทมะ (天空のトウマ)
- เกิด 10 ตุลาคม ค.ศ. 1973 ที่จังหวัด โอซาก้า กรุ๊ปเลือด AB
- โทมะ แห่งเท็นคู คือนักรบผู้สวมเกราะเท็นคู (อากาศและอวกาศ) ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก สติปัญญา เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณแห่งปัญญา (CHI) เป็นคุณสมบัติประจำกาย ใช้ ธนู (弓ゆみ) เป็นอาวุธ (殳るまた) โทมะเป็นคนฉลาดเฉลียวและมักเป็นมันสมองของกลุ่มในการวางแผนต่าง ๆ ในการต่อสู้อยู่เสมอ ฮาชิบะ โทมะ สืบเชื้อสายมาจากตระกูฮาชิบะ ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (นามเดิม ฮาชิบะ ฮิเดโยชิ)
[แก้] ตัวละครรอง
- ชูเท็นโดจิ (朱天童子)
- ชูเท็นโดจิ คือขุนพลปีศาจผู้สวมเกราะปีศาจ ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก ความซื่อสัตย์ เป็นผู้มีที่มีจิตวิญญาณแห่งความซื่อสัตย์ เป็นคุณสมบัติประจำกาย ใช้ เคียวติดโซ่ เป็นอาวุธ (殳るまた) ที่ร้ายกาจ แม้ลักษณะภายนอกของชูเท็นจะดูอำมหิตและโหดร้ายในตอนแรก แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นคนที่มีจิตใจดี และไม่เห็นด้วยกับแผนการหลาย ๆ อย่างของโลกปีศาจ
- นาสะ(那唖挫)
- นาสะ คือขุนพลปีศาจผู้สวมเกราะแห่ง งูเห่า ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก ความกตัญญู เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณแห่งความกตัญญู เป็นคุณสมบัติประจำกาย นาสะสามารถใช้ พิษ และเพลงดาบอันน่ากลัวเป็นอาวุธ (殳るまた) เข้าจู่โจมศัตรูอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้ดูราวกับว่านาสะ มีแขนถึง 6 แขน
- อานุบิสึ (悪奴弥守)
- อานุบิสึ คือขุนพลปีศาจผู้สวมเกราะปีศาจแห่งเทพมาไน อนูบิส แห่ง อียิปต์ โบราณ ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก ความกล้าหาญ เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ เป็นคุณสมบัติประจำกาย อานุบิสึเป็นนักรบที่มีความเชี่ยวชาญการรบในความมืด และมี ดาบ แสงสูรทมิฬ ซึ่งสามารถแทงทะลุได้ทุกสิ่งแม้แต่หินศักดิ์สิทธิ์แห่งคองโก เป็นอาวุธ (殳るまた) คู่กาย
- ราจูร่า (螺呪羅)
- ราจูร่า คือขุนพลปีศาจผู้สวมเกราะปีศาจแห่ง แมงมุม และ แมงป่อง ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก ความอดทน เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณแห่งความอดทน เป็นคุณสมบัติประจำกาย ราจูร่ามีพลังแห่งภาพลวงตา ภาพมายา เป็นอาวุธ (殳るまた) ที่น่ากลัว แต่หากพลังอันชั่วร้ายนี้นำมาใช้เพื่อคุณธรรม ก็จะสามารถเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความวงบสุข
- จอมปีศาจอาราโก (阿羅醐)
- จักรพรรดิ์แห่งโลกปีศาจ เจ้าเหนือหัวของขุนพลปีศาจทั้ง 4 ปรากฎกายขึ้นอีกครั้งหลังจากการต่อสู้กับ คาออส เมื่อพันปีก่อน และถูกจองจำมายาวนาน จอมปีศาจอาราโกต้องการทำลายล้างโลกมนุษย๋และดูดพลังแห่งความเกลียดชังของมนุษย์เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังปีศาจอันชั่วร้าย ยิ่งมนุษย์มีความหวาดกลัวและความเกลียดชังมากเท่าใด ก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นพลังปีศาจให้แก่จอมปีศาจมากขึ้นเท่านั้น
- คาออส (迦雄須)
- คาออส คือนักบวชลึกลับผู้มีตัวตนเป็นปริศนาที่คอยช่วยเหลือเหล่าซามูไรทรูปเปอร์ แต่ตัวตนที่แท้จริงของคาออสคือผู้กล้าที่ปกป้องโลกเอาไว้จากการรุกรานของจอมปีศาจอาราโก เมื่อพันปีก่อน ถึงแม้คาออสจะอยู่ในร่างของนักบวชเร่ร่อน แต่เขากลับมีพลังพิเศษมากมายในการต่อสู้ และยังเป็นผู้กุมปริศนาตำนานชุดเกราะเกียร์ไว้อีกด้วย
- คายูร่า (迦遊羅)
- คายูร่า เป็นขุนพลปีศาจคนที่ 5 ของจอมปีศาจอาราโก แม้กายภายนอกจะเป็นหญิงแต่คายูร่ากลับมีพลังปีศาจที่กล้าแข็งกว่า 4 ขุนพลปีศาจเสียอีก คายูร่าเป็นปีศาจที่มีพลังแกร่งกล้าและฝีมือในการต่อสู้สูง แต่เธอกลับมีความลับบางประการที่เป็นปริศนาและน่าฉงนอยู่ คายูร่าอยู่ในความควบคุมดูแลของเหล่าขุนพลปีศาจทั้ง 4 ตามคำบัญชาของจอมปีศาจอาราโก
- ยางิว นาสตี้ (ナスティ柳生)
- เกิด 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1970
- ยางิว นาสตี้ หญิงสาวผู้ตัวเล็ก ๆ ที่มีความแกร่งกล้าและเด็ดเดี่ยว เธอเป็นหลานสาวของศาสตราจารย์ยางิว ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีและผู้ล่วงรู้ความลับเกี่ยวกับการบุกเข้ายึดครองโลกของจอมปีศาจอาราโก แม้นาสตี้จะเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็ก ๆ แต่เธอก็เป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาตำนานชุดเกราะเกียร์
- ยามาโนะ จุน (山野 純)
- เกิด 30 มิถุนายน ค.ศ. 1979
- จุนเป็นเด็กชายวัย 8 ขวบ อาศัยอยู่กับพ่อและแม่ในกรุงโตเกียว พ่อและแม่ของจุนถูกสมุนปีศาจของจอมมารอาราโกจับตัวไป จุนได้นาสตี้และเรียวช่วยชีวิตไว้ เขาสัญญาว่าจะล้างแค้นให้กับพ่อและแม่ของเขาให้ได้ จุนติดตามนาสตี้และเหล่าทรูปเปอร์เพื่อให้กำลังใจในการต่อสู้ นอกจากนี้จุนยังมีความสนิทสนมกับ เบียคุเอ็น พยัคฆ์ขาวเพื่อนคู่ใจของเรียวเป็นพิเศษอีกด้วย
- พยัคฆ์ขาวเพื่อนคู่ใจของซานาดะ เรียว แห่งเร็กกะ นอกจากความดุดันและคล่องแคล่วว่องไวแล้ว เบียคุเอ็นยังมีความห้าวหาญและฝีมือในการต่อสู้เป็นเลิศ บ่อยครั้งที่มันเข้าประจัญบานกับกองทัพปีศาจรวมทั้งเหล่าขุนพลปีศาจทั้ง 4 อย่างอาจหาญ และยังเคยช่วยชีวิตของจุนและนาสตี้เอาไว้อีกด้วย
[แก้] เวอร์ชั่น อนิเมชั่น
VCD ซามูไรทรูปเปอร์ 鎧伝サムライトルーパー Yoroiden Samurai Troopers เวอร์ชั่นการ์ตูน ลิขสิทธิ์แท้จากประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทการ์ตูนอินเตอร์จำกัด จัดจำหน่ายโดยบริษัท พีรามิด ดิจิตอล จำกัด มีจำนวน 19 แผ่น รวมทั้งสิ้น 39 ตอน เป็นตอนเดียวกับการ์ตูนที่ออกอากาศที่ ประเทศญี่ปุ่น ทางสถานีนาโงยะ ทีวี และ ทีวีอาซาฮี ทุกวันเสาร์ เวลา 17.30-18.00 น. ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1988 ถึง 4 มีนาคม ค.ศ. 1989 ดังนี้
- ตอนที่ 1 จอมปีศาจฟื้นคืนชีพ โตเกียวตกเป็นเป้าหมาย
- ตอนที่ 2 การจู่โจมของขุนพลปีศาจ ชูเท็น โดจิ
- ตอนที่ 3 เกราะเกียร์ ความลับของเกราะเพลิงเร็กกะ
- ตอนที่ 4 กับดักของนาสะ ขุนพลอสรพิษ
- ตอนที่ 5 คืนชีพนักรบแห่งแสง
- ตอนที่ 6 การโจมตี วารีแห่งความพิโรธ
- ตอนที่ 7 พสุธากัมปนาท ท่าไม้ตายดาบอัสนีบาต
- ตอนที่ 8 แผนการร้ายขุนพลมายา ราจูร่า
- ตอนที่ 9 เหล่านักรบผู้กล้า ปลุกชีพโทมะ
- ตอนที่ 10 รวมพล!!! นักรบแห่งคุณธรรม
- ตอนที่ 11 ฝ่าด่านประตูอสูร
- ตอนที่ 12 เซจิ...การต่อสู้ในความมืด
- ตอนที่ 13 ความลับของเกราะเกียร์...ความจริงที่ถูกเปิดเผย
- ตอนที่ 14 ชูเท็นโดจิ...หุ่นยนต์สังหารที่ไร้หัวใจ
- ตอนที่ 15 คาออส...ศึกตัดสินแห่งโชคชะตา
- ตอนที่ 16 ตะลุยปราสาทจอมปีศาจอาราโก
- ตอนที่ 17 ตำนานเกราะเกียร์ เกราะธรรมะหรืออธรรม!!!
- ตอนที่ 18 จอมปีศาจอันน่าสะพรึงกลัว
- ตอนที่ 19 การเผชิญหน้า เร็กกะประจัญบานอาราโก
- ตอนที่ 20 ศึกครั้งใหม่
- ตอนที่ 21 คิโดเท...เกราะสีขาวที่ส่องประกาย
- ตอนที่ 22 คำท้ารบ...คำท้าทายจากเค็นบุเคียว
- ตอนที่ 23 ชีวิตเดิมพันของเบียคุเอ็น
- ตอนที่ 24 ทูตลึกลับจากจอมปีศาจ
- ตอนที่ 25 เกราะเกียร์ลึกลับ ฝาแฝดของซุยโคะ
- ตอนที่ 26 แสงสว่างที่หายไป
- ตอนที่ 27 เพลิงพิโรธ ขยี้อสูรแห่งทะเลทราย
- ตอนที่ 28 ปีศาจสาว...คายูร่า
- ตอนที่ 29 พลังของนักรบคู่
- ตอนที่ 30 นิมิตประหลาด...โลกปีศาจหรือโลกมนุษย์
- ตอนที่ 31 เกราะสีขาวในตำนาน...คิโดเท
- ตอนที่ 32 วิญญาณทมิฬ...มันสมองแห่งโลกปีศาจ
- ตอนที่ 33 สมบัติปริศนา การตามล่าเพื่อหาความจริง
- ตอนที่ 34 สมรภูมิเลือด ศึกสุดท้ายแห่งการต่อสู้
- ตอนที่ 35 คืนชีพ นักรบแห่งชุดเกราะ
- ตอนที่ 36 ศึกตัดสิน เกราะสีขาวและปีศาจสาวคายูร่า
- ตอนที่ 37 ดาบอัสนีบาต ดาบสังหารคืนชีพ
- ตอนที่ 38 สติที่กลับคืนมาของปีศาจสาว
- ตอนที่ 39 ประกายแสงแห่งคุณธรรม
[แก้] เวอร์ชั่น OVA
- ชุดพิเศษ 1 : Subplimentary : จิตวิญญาณแห่งนักรบ (2 ตอนจบ)
- ชุดพิเศษ 2 : The Legend of Emperor KIKOU : ตำนานเกราะ คิโคเท (4 ตอนจบ)
- ชุดพิเศษ 3 : Message : คืนชีพตำนานเกราะนักรบ (5 ตอนจบ)
[แก้] เพลงประกอบภาพยนต์การ์ตูน
ซามูไรทรูปเปอร์ ออกอากาศทางสถานีนาโงยะ ทีวี และ ทีวีอาซาฮี จำนวน 39 ตอน มีเพลงประกอบภาพยนต์การ์ตูนมากมายหลากหลายเพลง หลายเวอร์ชั่น แบ่งเป็น เพลงประกอบภาพยนต์ซามูไรทรูปเปอร์ ภาค TV. และภาค OVA แต่ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในภาค TV. ที่ออกอากาศทางสถานีนาโงยะ ทีวี คือ
เพลงไตเติ้ลตอนเริ่ม จำนวน 2 เพลง คือ
- Stardust Eyes (ตอนที่ 1-19)
- ขับร้องโดย อุรานิชิ มาริโกะ เนื้อร้องโดย มิอุระ โนริโกะ ทำนองโดย ชิเกะมุระ ยาสุฮิโกะ เรียบเรียงดนตรีโดย คาโต้ มิจิอากิ
- Samurai Heart (ตอนที่ 20-39)
- ขับร้องโดย โมริกูชิ ฮิโรโกะ เนื้อร้องโดย มิอุระ โนริโกะ ทำนองโดย ชิเกะมุระ ยาสุฮิโกะ เรียบเรียงดนตรีโดย โทซึกะ โอซามุ
เพลงไตเติ้ลตอนจบ จำนวน 2 เพลงคือ
- Far Away (ตอนที่ 1-19)
- ขับร้องโดย อุรานิชิ มาริโกะ เนื้อร้องและทำนองโดย คาราชิมะ มิโดริ เรียบเรียงดนตรีโดย คาโต้ มิจิอากิ
- Be Free (ตอนที่ 20-39)
- ขับร้องโดย โมริกูชิ ฮิโรโกะ เนื้อร้องโดย มิอุระ โนริโกะ ทำนองโดย ชิเกะมุระ ยาสุฮิโกะ เรียบเรียงดนตรีโดย โทซึกะ โอซามุ
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ซามูไรทรูปเปอร์ ของ โซนี่มิวสิค ((ญี่ปุ่น))