หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สถานีย่อย:ประเทศไทย
หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช
หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช

หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช (26 พฤษภาคม พ.ศ. 244828 กรกฎาคม พ.ศ. 2540) เกิดที่โรงทหารในจังหวัดนครสวรรค์ เวลาใกล้รุ่ง นายกรัฐมนตรี 4 สมัย โอรสในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ กับหม่อมแดง (บุนนาค) สมรสกับท่านผู้หญิง อุศนา ปราโมช มีบุตรชาย-หญิง ทั้งสิ้น 3 คน บุตรชายได้แก่ ม.ล.เสรี ปราโมช (ถึงแก่กรรม) ม.ล.อัศนี ปราโมช (องคมนตรีในรัชกาลปัจจุบัน) และบุตรตรี ม.ล.นียนา ปราโมช (ถึงแก่กรรม)

สารบัญ

[แก้] การศึกษา

เริ่มศึกษาที่โรงเรียนราชินี โรงเรียนอัสสัมชัญ โรงเรียนเทพศิรินทร์ และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ตามลำดับ จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ โรงเรียนเทรนต์ (Trent College) ในเมืองนอตติงแฮมไชร์ ประเทศอังกฤษ และได้เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ที่วิทยาลัยวอร์สเตอร์ (Worcester College) ของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ในประเทศอังกฤษ แล้วสำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนระดับเกียรตินิยมอันดับสอง หลังจากนั้น ก็เข้าศึกษาต่อที่สำนักเนติบัณฑิตอังกฤษ ณ สำนักเกรย์อินน์ ในกรุงลอนดอน ได้คะแนนเป็นที่หนึ่ง ได้รับรางวัลเป็นเงิน 300 กีนีย์จากสำนักกฎหมายอังกฤษ (เกียรติประวัติอันนี้ได้เล่าลือมาถึงเมืองไทย จนมีการเข้าใจว่าได้รับเงินรางวัลพระราชทานจากพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษ ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังเข้าใจอย่างนั้น) และทางโรงเรียนเทรนด์ได้ประกาศให้นักเรียนหยุดเรียนหนึ่งวัน เพื่อเป็นการระลึกถึงและได้เรียกวันนั้นว่า " วันเสนีย์ " (Seni Day) นับเป็นคนไทยคนแรกและเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ทำได้ เมื่อเดินทางกลับมายังประเทศไทย มรว. เสนีย์ ปราโมช ได้ศึกษาวิชากฎหมายไทยเพิ่มเติม จนกระทั่งได้รับเนติบัณฑิตไทย และเข้าฝึกงานที่ศาลฎีกาเป็นเวลา 6 เดือน จึงได้เป็นผู้พิพากษา

[แก้] ชีวิตการงาน

มรว. เสนีย์ ปราโมช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา ภาพนี้ถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2487 ในงานฉลองพระชนมายุ 19 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ที่สหรัฐอเมริกา
ขยาย
มรว. เสนีย์ ปราโมช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา ภาพนี้ถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2487 ในงานฉลองพระชนมายุ 19 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ที่สหรัฐอเมริกา
  • เป็นผู้พิพากษาศาลแพ่ง
  • ผู้ช่วยกรรมการศาลฎีกาและ
  • ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ตามลำดับ
  • ช่วงหลังของการรับราชการ ได้ย้ายไปกระทรวงการต่างประเทศ และไดัรับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2484 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกเข้าสู่ประเทศไทย หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ได้ประกาศนโยบายเป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับรัฐบาลในประเทศไทย และได้รวบรวมคนไทยในต่างประเทศ จัดตั้งขบวนการเสรีไทยขึ้นเพื่อต่อต้านญี่ปุ่นอย่างลับ ๆ โดยปฏิบัติการติดต่อกับฝ่ายสัมพันธมิตร
  • เป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมายในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น
  • รับราชการถวายและเล่นดนตรีร่วมกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำทุกวันศุกร์ ในวงลายคราม

[แก้] การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง มรว. เสนีย์ ปราโมช ได้เดินทางกลับมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2488 ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ท่านได้ปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับการเจรจากับฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งครั้งแรกอังกฤษได้ยื่นข้อเรียกร้องให้ประเทศไทยเป็นเมืองในอาณัติของอังกฤษ แต่หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ได้ดำเนินการเจรจาให้ไทยได้หลุดพ้นจากการเป็นเมืองในอาณัติได้ และจำเป็นต้องประกาศพระราชบัญญัติอาชญากรสงคราม เพื่อลงโทษผู้นำหรือหัวหน้ารัฐบาล ที่ร่วมก่อให้เกิดสงครามและต้องเป็นฝ่ายปราชัย ซึ่งถ้าหากรัฐบาลไม่ตราพระราชบัญญัตินี้ ฝ่ายสัมพันธมิตรก็จะนำตัวผู้ต้องหาเป็นอาชญากรสงครามไปดำเนินคดีในต่างประเทศ

มรว. เสนีย์ ปราโมช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยสุดท้าย
ขยาย
มรว. เสนีย์ ปราโมช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยสุดท้าย

มรว. เสนีย์ ปราโมช หมุนเวียนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ 4 ครั้ง ซึ่งในครั้งสุดท้ายได้เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ตำรวจและกองกำลังติดอาวุธเคลื่อนเข้าปิดล้อมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีนักศึกษาและประชาชนหลายพันคน ร่วมชุมนุมประท้วงการกลับเข้ามาของจอมพลถนอม กิตติขจร ที่ถูกประชาชนลุกฮือขับไล่ออกจากประเทศเมื่อ 3 ปีก่อน พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ได้จัดตั้งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินเข้ายึดอำนาจจาก มรว. เสนีย์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น

หลังจากพ้นตำแหน่งแล้ว มรว. เสนีย์ ปราโมช ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และวางมือจากการเมือง ใช้ชีวิตสงบเงียบตลอดมา และได้ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 รวมอายุได้ 92 ปีเศษ

ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง

  1. สมัยที่ 1 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 13 : 17 กันยายน 2488 - 31 มกราคม 2489
  2. สมัยที่ 2 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 35 : 15 กุมภาพันธ์ 2518 - 13 มีนาคม 2518
  3. สมัยที่ 3 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 37 : 20 เมษายน 2519 - 25 กันยายน 2519
  4. สมัยที่ 4 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 38 : 25 กันยายน 2519 - 6 ตุลาคม 2519

[แก้] ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์

มรว. เสนีย์ ปราโมช ดำเนินการจัดตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับนายควง อภัยวงศ์ ขึ้นในวันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2489 โดยชื่อ " ประชาธิปัตย์ " หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมชเป็นผู้บัญญัติขึ้น โดยมีความหมายว่า " ผู้บำเพ็ญประชาธิปไตย " โดยมีจุดมุ่งหมายคือ ต่อต้านการกระทำอันเป็นเผด็จการไม่ว่าวิธีการใด ๆ โดยมีนายควง อภัยวงศ์ เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นรองหัวหน้าพรรค หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ยุบพรรคก้าวหน้ามารวมกับพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเลขาธิการพรรค และนายชวลิต อภัยวงศ์ เป็นรองเลขาธิการพรรค

มรว. เสนีย์ ปราโมช ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่สอง สืบต่อจากนายควง อภัยวงศ์ที่ถึงแก่อสัญญกรรมไปในปี พ.ศ. 2511 และได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคในปี พ.ศ. 2522 หลังจากการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สี่ของท่านในปี พ.ศ. 2519

[แก้] ระหว่างเล่นการเมือง

มรว. เสนีย์ ปราโมช เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์สืบต่อจากนายควง อภัยวงศ์ ที่ถึงแก่อสัญญกรรมไปในปี พ.ศ. 2511 ระหว่างการเป็นหัวหน้าพรรคนั้น มรว. เสนีย์ ปราโมช ได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่เป็นสุภาพบุรุษ เล่นการเมืองด้วยความบริสุทธิ์ โปร่งใส มาตลอด แต่มักประสบปัญหาความวุ่นวายในพรรค เนื่องจากสมาชิกพรรคมักสร้างปัญหาโดยการต่อรองขอตำแหน่งทางการเมือง และบางส่วนก็จะออกจากพรรคไปตั้งพรรคใหม่ จนเกิดความวุ่นวาย ไม่สามารถควบคุมพรรคได้ จึงได้ฉายาจากสื่อมวลชนว่า " ฤาษีเลี้ยงลิง " หรือ " พระเจ้าตา " เพราะถูกมองว่าอ่อนแอ ไม่สามารถควบคุมบริหารพรรคและรัฐบาลได้

[แก้] ชีวิตหลังการเมือง

หลังจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 แล้ว หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ได้วางมือจากการรับตำแหน่งทางการเมือง แต่ยังรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปอีกระยะ จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2522 จึงได้หัวหน้าคนใหม่ ชีวิตหลังจากนี้ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเอกมัย ใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือ และรวบรวมงานประพันธ์ต่าง ๆ ที่เคยแต่งไว้ก่อนหน้านี้และแต่งเพิ่มเติม เช่น ประชุมสารนิพนธ์, แปลกวีนิพนธ์, ชีวลิขิต เป็นต้น รวมทั้งการวาดรูป ทั้งรูปสีน้ำ สีน้ำมัน รูปสเก็ตซ์ เล่นดนตรี แต่งเพลงและปลูกไม้ดอก โดยเฉพาะกุหลาบ ซึ่งล้วนเป็นงานอดิเรกที่ทำเป็นประจำ และยังคงให้สัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์บ้านเมืองเป็นระยะ ๆ รวมทั้งยังให้คำปรึกษากับพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่เป็นปูชนียบุคคลสำคัญในพรรคด้วย

[แก้] วาทะหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช

" การปกครองบ้านเมืองมี 3 วิธี ด้วยอำนาจ ด้วยอามิส หรือด้วยอุดมคติ

การเมืองที่มาด้วยอำนาจ ย่อมโค่นล้มไปด้วยอำนาจ อามิส วันหนึ่งหมดไม่มีจะให้ และให้สักเท่าใดก็ไม่พอสำหรับผู้รับ

อุดมคติเท่านั้นที่จะยั่งยืนอยู่ได้ แม้ตัวผู้ปกครองจะล้มหายตายจากไป สัจจะตามอุดมคติจะยังอยู่ "

คำปราศรัย ณ วงเวียนเล็ก ฝั่งธน ฯ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2489

[แก้] คำกล่าวถึง

" ท่านอาจารย์หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นบุรุษรัตนะผู้หนึ่ง มิฉะนั้นท่านจะสอบกฎหมายอังกฤษได้ที่ ๑ ได้อย่างไร แล้วยังได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นผู้พิพากษา เป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา เป็นนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง

ท่านเป็นผู้เจรจาเพื่อความรอดพ้นจากความเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เมื่อไทยเป็นฝ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง

บุรุษเช่นนี้ หาได้ยาก "

สัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตประธานองคมนตรี


" เป็นนัการเมืองที่สะอาด บริสุทธิ์ ซื่อสัตย์ น่าเชื่อถือ ยึดเอาความถูกต้อง และคุณธรรมเป็นหลักการตัดสินใจทางการเมืองใด ๆ เป็นไปอย่างรอบคอบและรัดกุม รู้แพ้ รู้ชนะและรู้อภัย ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองใด ๆ ที่ไม่ชอบมาพากล ท่านเป็นแบบอย่างของนักการเมืองที่ดีเยี่ยมที่นักการเมืองที่ดีทุกคนควรยึดถือ "

พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา องคมนตรี

[แก้] ดูเพิ่ม

[แก้] ลิงก์ภายนอก


สมัยก่อนหน้า:
ทวี บุณยเกตุ
นายกรัฐมนตรีไทย
พ.ศ. 2488-พ.ศ. 2489
สมัยถัดไป:
ควง อภัยวงศ์
สมัยก่อนหน้า:
สัญญา ธรรมศักดิ์
นายกรัฐมนตรีไทย
พ.ศ. 2518-พ.ศ. 2518
สมัยถัดไป:
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
สมัยก่อนหน้า:
ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
นายกรัฐมนตรีไทย
พ.ศ. 2519-พ.ศ. 2519
สมัยถัดไป:
ธานินทร์ กรัยวิเชียร


นายกรัฐมนตรี ประเทศไทย

พระยามโนปกรณ์นิติธาดา · พระยาพหลพลพยุหเสนา · แปลก พิบูลสงคราม · ควง อภัยวงศ์ · ทวี บุณยเกตุ · เสนีย์ ปราโมช · ปรีดี พนมยงค์ · ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ · พจน์ สารสิน · ถนอม กิตติขจร · สฤษดิ์ ธนะรัชต์ · สัญญา ธรรมศักดิ์ · คึกฤทธิ์ ปราโมช · ธานินทร์ กรัยวิเชียร · เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ · เปรม ติณสูลานนท์ · ชาติชาย ชุณหะวัณ · อานันท์ ปันยารชุน · สุจินดา คราประยูร · ชวน หลีกภัย · บรรหาร ศิลปอาชา · ชวลิต ยงใจยุทธ · ทักษิณ ชินวัตร · สุรยุทธ์ จุลานนท์

ภาษาอื่น