จาตุรนต์ ฉายแสง
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จาตุรนต์ ฉายแสง เกิดวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2499 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการตามลำดับ ในทางการเมืองเคยเป็นเลขาธิการพรรคความหวังใหม่ ปัจจุบันสังกัดพรรคไทยรักไทย
จาตุรนต์ ฉายแสงเป็นนักการเมืองผู้มีบทบาทโดดเด่นในวงการเมืองไทยที่เคยได้รับยกย่องจากนิตยสารเอเชียวีคให้เป็น 1 ใน 20 ผู้นำชาติเอเชียที่มีบทบาทโดดเด่นในศตวรรษที่ 20 และยังได้รับเลือกจากกลุ่มประเทศสมาชิกให้ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก
สารบัญ |
[แก้] ประวัติ
[แก้] ภูมิหลังและการศึกษา
เกิดเมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ที่อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นบุตรคนโตของนายอนันต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรี และ ส.ส.หลายสมัย กับนางเฉลียว ฉายแสง เรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์หลุยส์ ในจังหวัดบ้านเกิด จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย หลังจากนั้น ได้สอบเข้าเรียนต่อที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมทั้งทำกิจกรรมนักศึกษาไปด้วยจนได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกสโมสรนักศึกษา และขณะที่ยังเรียนชั้นปีที่ ๔ ได้เกิดเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ มีการกวาดล้างผู้นำนักศึกษา ทำให้เขาต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในป่าระยะหนึ่ง ภายหลังสถานการณ์คลี่คลายเขาจึงกลับเข้าเมืองและตัดสินใจไปศึกษาต่อจนสำเร็จปริญญาตรี และปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์จาก State University of New York สหรัฐอเมริกา และได้รับทุน Teaching American University Washington D.C. USA เรียนต่อระดับปริญญาเอก จนสอบประะมวลความรู้ (Comprehensive) แต่ไม่ได้ทำวิทยานิพนธ์ เนื่องจากต้องกลับประเทศไทยเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ และได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. จึงไม่ได้กลับไปเรียนต่อให้จบตามหลักสูตร
[แก้] เส้นทางการเมือง
จาตุรนต์ ฉายแสง สนใจวิถีชีวิตของคนในสังคมมาตั้งแต่ยังเยาว์ ด้วยเหตุที่พ่อเป็นนักการเมืองทำให้เขาได้รับรู้ถึงความเป็นอยู่ของผู้คนที่มีความแตกต่างและหลากหลาย สิ่งเหล่านี้ได้ซึมซับเข้าไปในจิตใจจนเกิดความสนใจทางการเมืองอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเขาเข้าเรียนระดับชั้นปีที่ ๑ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เข้ากลุ่มทำกิจกรรมนักศึกษาและมีโอกาสเข้าร่วมในการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ หลังจากนั้นเขาได้ร่วมในการรณรงค์ให้ความรู้ด้านสิทธิ เสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยแก่ประชาชน ชาวไร่ชาวนา และกรรมกร รวมทั้งการออกค่ายอาสาพัฒนาเป็นระยะ ต่อมาเขาได้รับเลือกเป็นนายกสโมสรนักศึกษามาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมีบทบาทสำคัญในการนำนักศึกษาเข้าร่วมเคลื่อนไหวต่อต้านอำนาจเผด็จการ จนนำไปสู่เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙
จาตุรนต์ ก้าวเข้าสู่การเมืองระดับชาติครั้งแรกจากการชักชวนของผู้เป็นพ่อให้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี ๒๕๒๙ ขณะกำลังศึกษาใกล้จะจบปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกา ด้วยพื้นฐานจิตใจที่รักความเป็นธรรม และอยากทำประโยชน์ให้กับสังคมประเทศชาติเป็นทุนอยู่แล้ว เขาจึงตัดสินใจสละปริญญาเอกที่อยู่แค่เอื้อม กลับมาลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคประชาธิปัตย์และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ฉะเชิงเทราสมัยแรก และสมัยที่ ๒ ในปี ๒๕๓๑ ต่อมาได้ย้ายมาสังกัดพรรคความหวังใหม่ และได้รับการเลือกตั้งต่อเนื่องกันมาอีก คือปี ๒๕๓๕ , ๒๕๓๘ และ ๒๕๓๙ ส่วนในการเลือกตั้งปี ๒๕๔๔ จาตุรนต์ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อสังกัดพรรคไทยรักไทย ลำดับที่ ๑๕ จากทั้งหมด ๔๘ คน และในการเลือกตั้งล่าสุด คือ ปี ๒๕๔๘ เขาเป็น ส.ส.[[บัญชีรายชอลำดับที่ ๔ ของพรรคไทยรักไทย
[แก้] ตำแหน่งสำคัญทางการเมือง
จาตุรนต์เคยเป็นโฆษกพรรคความหวังใหม่ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ถึง ๒๕๓๘ เป็นรองเลขาธิการพรรค ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ และได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคความหวังใหม่ ปี ๒๕๔๒ และเมื่อย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย จาตุรนต์ได้เป็นรองหัวหน้าพรรคตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ จนถึงปัจจุบัน
ด้านการบริหาร เขาเคยเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปี พ.ศ. ๒๕๒๙ – ๒๕๓๐ เป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ ปี พ.ศ. ๒๕๒๙ – ๒๕๓๐ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี ๒๕๓๑ - ๑๕๓๔ เป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการการคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน ปี ๒๕๓๑ – ๒๕๓๔ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปี ๒๕๓๔ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ปี ๒๕๓๕ – ๒๕๓๘ และเป็นประธานกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ปี ๒๕๓๘
จาตุรนต์ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งแรกในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ โดยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ – ๒๕๔๐ และในรัฐบาลพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เขาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อกุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ ถัดมาเดือนมีนาคม ๒๕๔๕ ขยับไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก่อนจะมาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน จนรัฐบาลครบวาระ ๔ ปี เมื่อ ๘ มีนาคม ๒๕๔๘
ในสมัยที่ ๒ ของรัฐบาลพันตำรวจโททักษิณ จาตุรนต์ได้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีต่อมาอีกจนกระทั่งถึงสิงหาคม ๒๕๔๘ เขาได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจนถึงปัจจุบัน
[แก้] สไตล์การทำงาน
จาตุรนต์ เป็นคนสุภาพนิ่มนวล ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ขณะเดียวกันก็มีจุดยืนและความเชื่อมั่นตัวเองสูง กล้าตัดสินใจบนพื้นฐานของประโยชน์ส่วนร่วม ไม่ยึดติดกับตำแหน่งส่วนตนหากต้องแลกกับการสูญเสียหลักการ เห็นได้จากเมื่อปี ๒๕๔๓ เขายินดีลาออกจากเลขาธิการพรรคความหวังใหม่ หลังจากที่ประชุมพรรคมีความเห็นที่จะส่งบุคคลผู้มีเรื่องอื้อฉาวลงสมัคร ส.ส. กทม. และในปีเดียวกันนั้น เขาก็ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคความหวังใหม่ อันทำให้เขาต้องหมดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ไปด้วย เหตุผลที่ลาออกเนื่องจากพรรคมีมติให้ ส.ส. ลาออกเพื่อกดดันให้รัฐบาลนายชวน หลีกภัย ยุบสภา แต่นายจาตุรนต์ไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว เพราะไม่เคยมีประเพณีที่ฝ่ายค้านจะล้มรัฐบาลด้วยการลาออกทั้งคณะ
จาตุรนต์ทำงานทางการเมืองอย่างมุ่งมั่น ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล จนมีผลงานโดดเด่นทั้งในสภาและทางการบริหาร บทบาทในสภา เช่น การใช้เหตุใช้ผลอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชวน ในปี ๒๕๔๒ จนได้รับรางวัล "นักการเมืองมาตรฐานแห่งปี ๒๕๔๒” จากสมัชชา สส.ร. แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้
หลังเหตุการณ์รัฐประหารในวันที่ ๑๙ กันยายน ปี ๒๕๔๙ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ทางพรรคมีมติให้นายจาตุรนต์เข้ามารับตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรค บทบาทของนายจาตุรนต์เป็นไปในลักษณะของผู้ต่อต้านคณะปฏิรูป และรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเป็นผู้เปิดประเด็นว่า มี ส.ส. ของพรรคถูกทหารรีดไถ แต่เมื่อทางทหารถามหาข้อเท็จจริงและให้เปิดเผยตัว ก็ไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ ประกอบกับ ส.ส. ของพรรคเองหลายคน บอกตรงกันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะมีจริง
[แก้] ผลงานโดดเด่น
ปี ๒๕๔๕ ในขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เขามีส่วนสำคัญในการวางยุทธศาสตร์ปฏิรูปกระทรวงยุติธรรม ยกระดับจากกระทรวงขนาดกลางเป็นกระทรวงขนาดใหญ่ และผลักดันกฎมายที่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ด้อยโอกาสและคนยากจน โดยนำระบบการลงโทษผู้กระทำผิดด้วยการบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะ แทนค่าปรับหรือการจำคุก
ปี ๒๕๔๖ – ๒๕๔๘ เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายสังคม มีผลงานในการวางระบบแก้ไขปัญหาทางสังคมโดดเด่นหลายด้าน เช่น
- การจัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ผลักดันและพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยทางถนนอย่างเป็นระบบ รณรงค์การสร้างวินัยจราจรด้วยมาตรการ ๓ ม. ๒ ข. ๑ ร. มาตรการเปิดไฟใส่หมวก สามารถลดการสูญเสียของประเทศชาติจากปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างเห็นได้ชัด และเป็นพื้นฐานสำคัญนำไปสู่การดำเนินการด้านความปลอดภัยทางถนนในเวลาต่อมา
- การรณรงค์ให้เกิดการใช้สื่อของรัฐเพื่อการศึกษาและพัฒนาสำหรับเด็กเยาวชน และครอบครัว ได้จัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ให้เพิ่มสัดส่วนรายการที่มีเนื้อหาเพื่อการศึกษาและพัฒนาสำหรับเด็กเยาวชนและครอบครัวในช่วงเวลาไพรม์ไทม์มากขึ้น พร้อมทั้งให้มีการจัดระดับ (Rating) ของสื่อที่นำเสนอด้วย
- การควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไม่ให้เผยแพร่ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ และวิทยุกระจายเสียงระหว่างเวลา ๐๕.๐๐ น. – ๒๒.๐๐ น. ซึ่งได้รับกระแสตอบรับและเสียงชื่นชมจากประชาชนผู้ปกครองอย่างกว้างขวางจนได้รับการโหวตเป็น Thailand Key’ s Maker ประจำปี ๒๕๔๖ จากสถานีข่าว ๑๐๑ News Channel
- การแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนก จาตุรนต์ได้รับมอบหมายให้ดูแลการแก้ไขปัญหา หลังจากประเทศไทยเกิดสถานการณ์ไข้หวัดนกระลอกที่ ๒ เขาได้ประกาศหลักการ ๓ ข้อ คือ ยึดความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นลำดับแรก เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ให้มากที่สุด และเน้นการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อจัดการปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งส่งผลให้ประชาชนเกิดความตื่นตัว รู้เท่าทันโรค สามารถป้องกันตนเองได้อย่างถูกวิธี มีการจัดทำยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ และนำไปสู่การวิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกในเวลาต่อมา
- ด้านการศึกษา จาตุรนต์มีส่วนอย่างสำคัญต่อการปฏิรูปการศึกษาของประเทศ การวางระบบกองทุนเงินกู้เพื่อการศึกษาที่ผูกพันกับรายได้ในอนาคต หรือ ICL ซึ่งเป็นแนวคิดที่สร้างโอกาสให้นักเรียนทุกกลุ่มทุกฐานะเข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาได้อย่างเท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ผลักดันยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาบุคคลไร้สัญชาติ ยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งได้รับการนำไปปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน ๓ จังหวัดภาคใต้ในเวลาต่อมา เป็นต้น
ในระดับภูมิภาค เขาได้แปรนโยบายความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือ ECS ไปสู่การปฏิบัติ โดยประสานกับผู้นำโดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา จนนำไปสู่ความร่วมมือในหลายโครงการ เช่น การพัฒนาการคมนาคม การเปิดจุดผ่อนปรนและจุดผ่านแดนถาวรหลายแห่ง และการพัฒนาเมืองคู่แฝด เป็นต้น ส่วนระดับนานาชาติ จาตุรนต์มีบทบาทผลักดัน และสนับสนุนให้มีการจัดประชุมพุทธศาสนานานาชาติในประเทศไทย ซึ่งที่ประชุมดังกล่าวมีมติให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก
เมื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จาตุรนต์ได้รับเลือกจากกลุ่มประเทศสมาชิกให้ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนาธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ จนปัจจุบัน
[แก้] เกียรติรางวัลที่เคยได้รับ
จากการทุ่มเททำงานและยึดมั่นในอุดมการณ์เพื่อส่วนรวม ทำให้เขาได้รับรางวัลยกย่องจากองค์กรต่างๆ มากมาย เช่น
- รางวัล "นักการเมืองมาตรฐานแห่งปี ๒๕๔๒” จากสมัชชา สสร.แห่งประเทศไทย
- นิตยสารเอเชียวีค (Asia Week) จัดให้เป็น ๑ ใน ๒๐ ผู้นำชาติในเอเชีย ที่มีบทบาทในศตวรรษที่ ๒๐ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๒
- นิตยสารต่างประเทศยกย่องให้เป็น ๑ ใน ๔ ผู้นำรุ่นใหม่ของประเทศไทยในปีเดียวกัน
- เป็นนักการเมืองคนที่ ๔ ของประเทศไทยที่ได้รับเกียรติจากรัฐบาลออสเตรเลีย เชิญเป็นแขกของรัฐบาลในฐานะนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ และทำประโยชน์ในสังคม เมื่อปี ๒๕๔๓
- รางวัล “ลี กวน ยิว” จากประเทศสิงคโปร์ในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งนับเป็นคนไทยคนที่ ๒ ที่ได้รับรางวัลนี้ (คนแรกคือ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ในปี ๒๕๓๘)
- The Asian Forum of Parliamentarians on Population and Development (AFPPD) มอบโล่เกียรติคุณในฐานะผู้ประสานการประชุมร่วมรัฐสภาอาเซียนกับองค์การสหประชาชาติ เมื่อปี ๒๕๔๖
- รางวัล "บุคคลผู้มีอิทธิพลต่อสังคมไทย" (Thailand key's maker) ปี พ.ศ. ๒๕๔๖ จากการโหวตของประชาชนผ่านคลื่น 101 News Channel ด้วยผลงานการจัดระเบียบโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ เมื่อปี ๒๕๔๗
[แก้] ตำแหน่งสำคัญอื่นๆ
- ประธานกรรมการนโยบายและอำนวยการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.)
- กรรมการในคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.)
- รองประธานกรรมการบริหารองค์การยูเนสโก
[แก้] ลิงก์ภายนอก
![]() |
จาตุรนต์ ฉายแสง เป็นบทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น |