เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์
ขยาย
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ (HRH Prince Charles, The Prince of Wales) มีพระนามเต็มว่า ชาร์ลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ วินด์เซอร์ (Charles Philip Arthur George Windsor) เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1948 พระองค์เป็นรัชทายาทลำดับที่ 1 ที่จะเสด็จขึ้นครองราชย์บัลลังก์อังกฤษและเครือจักรภพ โดยดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1958 ยกเว้นที่สก็อตแลนด์ ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ดยุคแห่งโรเตสเซย์ พระองค์เป็นรัชทายาทลำดับที่ 1 หากแต่มีลำดับพระอิสริยยศเป็นที่ 3 ต่อจากสมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรและเจ้าฟ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินเบอระ

เจ้าชายแห่งเวลส์ทรงเป็นที่รู้จักในฐานะว่าที่กษัตริย์พระองค์ต่อไปของอังกฤษ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนับตั้งแต่ได้ทรงเจริญพระชนม์พอสมควร อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักจากการทรงเสกสมรสกับไดอาน่าและความรักอันอื้อฉาวของพระองค์กับคามิลล่า

สารบัญ

[แก้] วัยเด็ก

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1948 ที่พระราชวังบักกิ้งแฮม พระบิดาคือเจ้าฟ้าชายฟิลิปส์ พระมารดาคือเจ้าฟ้าหญิงอลิซาเบธ ดัชเชสแห่งเอดินบะระ (ปัจจุบันคือสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2) รัชทายาทของราชบัลลังก์อังกฤษในขณะนั้น เจ้าฟ้าชายทรงรับศีลล้างบาปที่ห้องดนตรี พระราชวังบัคกิ้งแฮมเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 1948 พระองค์มีพ่อและแม่ทูนหัวคือ พระเจ้าจอร์จที่ 6 สมเด็จพระราชินีแมรี่ เจ้าฟ้าหญิงมากาเร็ต มาควิสเนสมิลฟอร์ด ฮาเวน เดวิด โบลียอน เลดี้บราบรูน สมเด็จพระราชาธิบดีฮากุนที่ 7 แห่งนอร์เวย์ และเจ้าชายจอร์จแห่งกรีก

ตามพระราชโองการของพระเจ้าจอร์จที่ 5 (ทวดของเจ้าชาย) สั่งว่าผู้ที่จะดำรงอิสริยยศเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งอังกฤษนั้น ถ้าเป็นชั้นพระราชนัดดาแล้ว จะต้องผ่านทางสายพระราชโอรสเท่านั้น (สำหรับชั้นพระราชปนัดดา (เหลน) มีกรณีเดียวคือต้องเป็นพระโอรสและพระธิดาในพระโอรสพระองค์ใหญ่ของเจ้าชายแห่งเวลส์) ในขณะที่ชาร์ลส์ทรงเป็นพระราชนัดดาผ่านทางสายพระราชธิดา พระองค์ควรจะดำรงยศเป็นเอิร์ลแห่งมารีออนเน็ต (ซึ่งเป็นยศสำหรับทายาทผู้จะสืบตำแหน่งดยุคแห่งเอดินบะระ) อย่างไรก็ตามพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระอัยกา (ตา) ของเจ้าชายมีพระราชโองการใหม่ เฉพาะพระโอรสและพระธิดาของเจ้าฟ้าหญิงอลิซาเบธ ให้ดำรงอิสริยยศเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งออังกฤษได้ตั้งแต่ประสูติ พระราชโองการฉบับนี้ไม่มีผลครอบคลุมถึงพระราชธิดาอีกพระองค์หนึ่งคือเจ้าฟ้าหญิงมากาเร็ต และจากพระราชโองการฉบับดังกล่าวทำให้ชาร์ลส์มีพระยศตั้งแต่แรกประสูติว่า เจ้าชายชาร์ลส์ แห่งเอดินบะระ

ชาร์ลส์มีพี่น้อง 4 พระองค์ดังนี้

1.เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์

2.เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ พระวรกุมารี

3.เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ค

4.เจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซ็กซ์

ในปี1952 พระมารดาของพระองค์เสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เจ้าชายชาร์ลส์ได้รับพระอิสริยยศเป็นดยุคแห่งคอร์นวอลล์ทันที (ในสก็อตแลนด์คือดยุคแห่งโรเตสเซย์) นอกจากนี้ยังทรงดำรงพระอิสริยยศ เอิร์ลแห่งแคร์ริค บารอนแห่งเรนเฟรว ลอร์ดแห่งไอเซิล เจ้าชายและจอมทัพแห่งสก็อตแลนด์อีกด้วย

ในวันราชาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธ ชาร์ลส์ได้โดยเสด็จไปร่วมพระราชพิธีด้วย (ในขณะที่เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ไม่ได้ตามเสด็จ) โดยพระองค์ทรงประทับนั่งระหว่างสมเด็จพระราชชนนีอลิซาเบธ พระพันปีหลวง (พระอัยยิกา (ยาย)) และเจ้าฟ้าหญิงมากาเร็ต (พระมาตุจฉา (น้า) และแม่ทูนหัวของพระองค์))

[แก้] การศึกษา

โดยปกติแล้วพระราชวงศ์ที่มีพระชนม์ระหว่าง 5-8 พรรษานั้นจะได้รับการศึกษาส่วนพระองค์ที่พระอาจารย์เข้ามาจัดการสอนถวายที่พระราชวังบัคกิ้งแฮม หากแต่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เป็นพระราชวงศ์พระองค์แรก (และรัชทายาทของอังกฤษพระองค์แรก) ที่เสด็จเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียน โดยทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนฮิลล์ เฮ้าส์ในเมืองลอนดอน และต่อมาที่โรงเรียนเตรียมความพร้อมด้านวิชาเคมีในเมืองเบิร์คแชร์ ซึ่งเจ้าฟ้าชายฟิลิปส์พระบิดาของพระองค์ได้เสด็จเข้าศึกษาด้วยเช่นกัน

เจ้าชายทรงสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาจากแคมบริดจ์ ด้วยเกียรตินิยม

[แก้] เจ้าชายแห่งเวลส์

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ดยุคแห่งคอร์นวอลล์และโรเตนเซย์ได้รับการสถาปนาให้เป็น เจ้าชายแห่งเวลส์ และเอิร์ลแห่งเชสเตอร์เมื่อพระชนม์ 10 พรรษา หากแต่ได้มีพระราชพิธีขึ้นในอีก 11 ปีต่อมา เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ได้กลายเป็นพระรัชทายาทลำดับที่ 1 ในการจะทรงสืบสันตติวงศ์ของอังกฤษสืบมานับตั้งแต่บัดนั้น

[แก้] อภิเษกสมรสครั้งแรก

ชีวิตรักของชาร์ลส์เป็นที่สนใจของสื่อมวลชนมาเป็นระยะเวลานานตั้งแต่ยังทรงรุ่นหนุ่มอยู่ จนกระทั่งเมื่อพระชนม์ได้ 30 พรรษา พระองค์ทรงได้รับการขอร้องให้เสกสมรส สมเด็จพระราชชนนี นั้นทรงโปรดปรานเลดี้ฟรอมเมยนางสนองพระโอษฐ์มาก ถึงกับทรงพระราชประสงค์ที่จะให้เป็น "ทองแผ่นเดียวกัน" เลดี้ฟรอมเมยมีหลานสาว 3 คนคือเลดี้ซาร่าห์ เลดี้เจน และเลดี้ไดอาน่า สำหรับเลดี้เจนนั้นไม่มีทางที่จะเสกสมรสกับพระองค์เพราะตามกฏของตระกูลสเปนเซอร์ ลูกสาวคนที่สองจะต้องสมรสกับราชเลขานุการของพระเจ้าแผ่นดิน และเลดี้ซาร่าห์เองก็เป็นผู้ที่ออกมาประกาศว่าตนเองกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์นั้นไม่มีความสัมพันธ์อะไรที่ลึกซึ้งกันเกินไปกว่า "เพื่อน" และในฐานะ "เพื่อน" ของเลดี้ซาร่าห์และเลดี้เจน เจ้าฟ้าชายจึงทรงรู้จักเลดี้ไดอาน่าด้วย

พระราชพิธีอภิเษกสมรส
พระราชพิธีอภิเษกสมรส

มีคำร่ำลือ (แต่ไม่เคยได้รับการยืนยัน)ว่า นอกจากสมเด็จพระราชชนนีแล้ว คามิลล่า คนรักเก่าของเจ้าชาย (และพระชายาพระองค์ปัจจุบัน) ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่สนับสนุนพระองค์ให้เลือกหญิงสาววัย 19 ปี เลดี้ ไดอาน่า ผู้ช่วยครูที่คินเดอร์การ์เทนมาเป็นพระชายา

พระราชวังบัคกิ้งแฮมประกาศเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1981 ว่าพระราชพิธีอภิเษกสมรสจะจัดขึ้นที่โบสถ์เซนท์ ปอล ในลอนดอน ในวันที่ 29 กรกฏาคม 1981 แขกจำนวน 3500 คนถูกเชิญมาในขณะที่ผู้ชมนับพันล้านคนทั่วโลกเฝ้ารอดูพระราชพิธี

ไดอาน่าเป็นหญิงคนแรกในรอบหลายศตวรรตที่สมรสกับรัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อังกฤษ หลังจากปี 1659 ที่เลดี้แอนน์ สมรสกับเจ้าฟ้าดยุคแห่งยอร์คและอัลบานี่ (ต่อมาคือพระเจ้าเจมส์ที่ 2) หากแต่ความแตกต่างคือชาร์ลส์เป็นรัชทายาทโดยนิตินัย แต่เจมส์เป็นรัชทายาทโดยพฤตินัย หลังการอภิเษกสมรสไดอาน่าได้รับยศเป็น เจ้าหญิงแห่งเวลส์ และมีลำดับพระอิสริยยศเป็นลำดับที่ 3 แห่งพระราชวงศ์ฝ่ายในของอังกฤษ ต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และสมเด็จพระราชชนนี อลิซาเบธ

[แก้] พระโอรส

เจ้าฟ้าชายและเจ้าฟ้าหญิงแห่งเวลส์ มีพระโอรส 2 พระองค์

  • เจ้าชายวิลเลียม อาร์เธอร์ ฟิลิป หลุยส์แห่งเวลส์ (HRH Prince William Arthur Philip Louis of Wales) ประสูติเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 1982 ณ โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ เขตแพดดิงตัน กรุงลอนดอน รัชทายาทสืบราชสมบัติลำดับที่ 2 แห่งพระราชวงศ์อังกฤษ ทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะจากมหาวิทยาลัยอีตัน ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 ปัจจุบันทรงเข้ารับการฝึกเป็นทหารอยู่ที่ประเทศชิลี
  • เจ้าชายเฮนรี่ ชาร์ลส์ อัลเบิร์ต เดวิดแห่งเวลส์ (HRH Prince Henry Charles Albert David of Wales) หรือ เจ้าชายแฮร์รี่ ประสูติเมื่อวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1984 ณ โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ เขตแพดดิงตัน กรุงลอนดอน รัชทายาทสืบราชสมบัติลำดับที่ 3 แห่งพระราชวงศ์อังกฤษ ถูกโจมตีมากที่สุดว่าเป็นเจ้าชายเจ้าปัญหา ด้วยพระอารมณ์รุนแรง หรือการฉลองพระองค์ไม่เหมาะสม (เช่น ชุดทหารนาซี) อีกทั้งยังมีข่าวลือว่าแท้จริงแล้วพระองค์อาจไม่ใช่พระโอรสของเจ้าชายชาร์ลส์

[แก้] ทรงหย่า

เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงหันหลังให้แก่กัน
เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงหันหลังให้แก่กัน

เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ เริ่มต้นชีวิตสมรสของพระองค์ด้วยความงดงาม หากแต่ทุกอย่างเริ่มไม่เป็นไปอย่างความคาดหมายของทุกคน ในระยะแรกเจ้าหญิงไม่สามารถทรงปรับพระองค์ให้เข้ากับชีวิตของความเป็นเจ้าฟ้าหญิงได้ และทรงทุกข์ทรมานจากพระโรค Bulimia (น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว) หลังจากหายจากพระโรค เจ้าหญิงได้มีพระประสูติกาลเจ้าชายวิลเลียม หลังจากนั้นอีก 3 ปี พระองค์ได้มีพระประสูติกาลอีกครั้ง เจ้าชายแฮร์รี่ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มาก เนื่องจากพระองค์ทรงหวังว่าพระองค์น่าจะได้พระธิดาจากการประสูติกาลครั้งที่ 2 นี้ เนื่องจากทรงโปรดลูกสาวของคามิลลามากอีกทั้งยังมีข่าวลือหนาหูว่าแท้จริงแล้วเจ้าชายแฮร์รี่อาจไม่ใช่พระโอรสของพระองค์ รายงานข่าวส่วนหนึ่งเชื่อว่าทั้งสองพระองค์เริ่มแยกกันอยู่หลังจากการเสกสมรสเพียง 5 ปี บางคนเชื่อว่าเนื่องจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ไม่สามารถทนได้ที่พระชายาได้รับความชื่นชมมากกว่าพระองค์ (เช่นเดียวกันกับที่เกิดขึ้นกับเจ้าหญิงมาซาโกะ มกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่นในปัจจุบัน)ภาระทั้งหมดกลับตกไปที่ไดอาน่าในฐานะที่ควรจะ "ทรงทนให้ได้" เจ้าหญิงพยายามอย่างยิ่งที่จะพยายามเชื่อความสัมพันธ์ของพระองค์กับชาร์ลส์ไว้ให้นานที่สุด แต่ไม่เป็นผล สื่อมวลชนประโคมข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับคามิลลา อย่างครึกโครม รวมทั้งประโคมข่าวระหว่างเจ้าหญิงกับผู้ชายอีกหลายคน นั่นทำให้ทั้ง 2 พระองค์คิดว่า เรื่องราวทั้งหมดควรจะจบลงเสียที ความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์ในขณะนั้น สื่อมวลชนเรียกว่า War of Wales (สงครามแห่งเวลส์) ในปี 1995 เจ้าหญิงแห่งเวลส์ประทานสัมภาษณ์ เกี่ยวกับชีวิตส่วนพระองค์อย่างหมดเปลือก

"I'd like to be a queen of people's hearts, in people's hearts, but I don't see myself being Queen of this country," she said. "I don't think many people will want me to be Queen."

(ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะเป็นพระราชินีของประชาชน เป็นราชินีภายในหัวใจของพวกเขา แต่ข้าพเจ้ามองไม่เห็นทางเลยที่ข้าพเจ้าเองจะเป็นพระราชินีของประเทศนี้ ข้าพเจ้าไม่เชื่อว่าจะมีผู้คนมากนักปรารถนาให้ข้าพเจ้าเป็นพระราชินีของพวกเขา)

หนังสือสำคัญการหย่าของเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์
หนังสือสำคัญการหย่าของเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์

บทสัมภาษณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการวางขายหนังสือ Diana, Her True Story ของ แอนดรูว์ มอร์ตัน ไม่นาน บทสัมภาษณ์นี้กินระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมง แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คนเห็นใจไดอาน่า และพุ่งความเกลียดชังจึงตรงไปที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ซึ่งทั้งการประทานสัมภาษณ์และหนังสือนั้น ไดอาน่าทรงเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังโดยที่สำนักพระราชวังไม่ทราบมาก่อน สมเด็จพระราชินีนาถและเจ้าฟ้าชายฟิลิปส์ ทรงหมดความอดทนแล้ว และได้มีพระราชหัตถเลขารับสั่งให้เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงหย่าขาดจากกันทันที เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงหย่าขาดจากกันเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 1996 และจากพระราชโองการของสมเด็จพระราชินีนาถ ลงวันที่21 สิงหาคม 1996สั่งว่าหญิงผู้ใดที่หย่าขาดจากเจ้าชายแห่งอังกฤษ จะต้องสูญเสียฐานันดรศักดิ์ โรยัล ไฮเนส (Royal Highness)และอิสริยยศทั้งหมดที่ได้จากการเสกสมรส พระราชโองการฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ทันทีกับไดอาน่าและซาร่าห์ (Diana, Princess of Wales และ Sarah, Ducess of York) อย่างไรก็ตามในฐานะที่ไดอาน่าทรงเป็นพระมารดาของรัชทายาทลำดับที่ 2 และ 3 และซาร่าห์ทรงเป็นพระมารดาของรัชทายาทลำดับที่ 5 และ 6 แห่งราชบัลลังก์อังกฤษ ไดอาน่าและซาร่าห์ยังคงทรงเป็นสมาชิกแห่งพระบรมราชวงศ์ของอังกฤษ (ทั้ง 2 พระองค์จะทรงพ้นจากความเป็นพระราชวงศ์ในกรณีเดียวเท่านั้นคือทรงเสกสมรสซ้ำอีกครั้ง)

[แก้] ไดอาน่าสิ้นพระชนม์

ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์สิ้นพระชนม์ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปี 1997 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

มีบางแหล่งข่าวระบุว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงอยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุที่ปลงพระชนม์ไดอาน่า ตำรวจเริ่มการสืบสวนเมื่อปี 2004 หากแต่หยุดการสืบสวนลงเนื่องจากคำของร้องของเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าชายแฮร์รี่

[แก้] อภิเษกสมรสครั้งที่สอง

คลาเรนซ์เฮ้าส์ประกาศเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2005 ว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และคามิลล่า ปากเกอร์โบลว์จะเสกสมรสกันในวันที่ 8 เมษายนปีเดียกวันนั้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาจอห็น ปอลที่ 2 การเสกสมรสต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 เมษายนแทนเพระเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ต้องไปเสด็จฯ ไปในการพระศพ

รวมทั้งได้มีการประกาศเพิ่มเติมด้วยว่าหลังจากเสกสมรสแล้ว คามิลล่าจะดำรงพระอิสริยยศเป็น เจ้าฟ้าหญิงดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ (Her Royal Highness the Duchess of Cornwall) และหลังจากชาร์ลส์เสด็จขึ้นครองราชย์ จะดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงพระชายา (Her Royal Highness the Princess Consort) เชื่อกันว่าเนื่องจากอ้างอิงตามพระอิสริยยศของเจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียที่ทรงเป็น เจ้าชายพระสวามี (His Royal Highness the Prince Consort)

หมายเหตุ 1 -- หากจะแปลยศ Her Royal Highness the Princess Consort ให้ใกล้เคียงกับยศพระภรรยาเจ้าของไทยให้มากที่สุดแล้ว น่าจะแปลเป็นพระอิสริยยศ พระนางเจ้า พระราชเทวี ตามที่สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวีทรงใช้แทนพระนามพระองค์เองในสมัยรัชกาลที่ 5

หมายเหตุ 2 -- เจ้าฟ้าชายฟิลิปส์ ในปัจจุบันไม่ได้ใช้พระนามว่า His Royal Highness the Prince Consort พระองค์ใช้พระอิสริยยศเสมือนเจ้าฟ้าพระราชโอรสที่ทรงกรมเป็นดยุคแห่งเอดินบะระ ยศ Prince Consort ที่มีใช้ในปัจจุบันคือเจ้าชายเฮนริก พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถมาเกเรเธ่ที่ 2 แห่งเดนมาร์คเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น -- ผู้เขียน

[แก้] อิสริยยศ

ตั้งแต่แรกเสด็จพระราชสมภพตราบจนสมเด็จพระราชินีนาถเสด็จขึ้นครองราชย์

  • His Royal Highness Prince Charles of Edinburgh

ตั้งแต่สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธเสด็จขึ้นครองราชย์แต่ก่อนที่จะทรงรับสถาปนาเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์

  • His Royal Highness The Duke of Cornwall
  • His Royal Highness The Prince Charles, Duke of Rothesay (ใช้เฉพาะในประเทศสก็อตแลนด์)

หลังทรงรับพระราชทานสถาปนาเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ His Royal Highness The Prince of Wales His Royal Highness The Prince Charles, Duke of Rothesay (ใช้เฉพาะในประเทศสก็อตแลนด์)

พระอิสริยยศเต็มๆ (ใช้น้อยมาก): His Royal Highness The Prince Charles Philip Arthur George, Prince of Wales, Duke of Cornwall and Earl of Chester, Duke of Rothesay, Earl of Carrick, Baron of Renfrew, Lord of the Isles, Prince and Great Steward of Scotland, Knight Companion of the Most Noble Order of the Garter, Knight of the Most Ancient and Most Noble Order of the Thistle, Great Master and First and Principal Knight Grand Cross of the Most Honourable Order of the Bath, Member of the Order of Merit, Knight of the Order of Australia, Companion of the Queen's Service Order, Honorary Member of the Saskatchewan Order of Merit, Chief Grand Commander of the Order of Logohu, Member of Her Majesty's Most Honourable Privy Council, Aide-de-Camp to Her Majesty.



  เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ เป็นบทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ ในภาษาอื่น สามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ๆ ด้านซ้ายมือ