ทาก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ทากชูตัวคอยเหยื่อที่จะผ่านมา
ขยาย
ทากชูตัวคอยเหยื่อที่จะผ่านมา

ทากมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Haemadipsa sylvestris จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับไส้เดือนดินในไฟลัมแอนนีลิดา(Phylum Annelida) จัดอยู่ในคลาสฮิรูดินี(Class Hirudinae) สามารถพบได้ทั่วไปตามป่าดิบชื้นถือว่าทากเป็นดัชนีชี้ความอุดมสมบูรณ์ของป่า

ทากใช้แว่นดูดเพื่อดูดเลือดของเหยื่อ
ขยาย
ทากใช้แว่นดูดเพื่อดูดเลือดของเหยื่อ

สารบัญ

[แก้] ลักษณะ

ทากมีลักษณะคล้ายปลิง โดยทั่วไปลำตัวเป็นปล้องมีเมือกเหนียวหุ้มไว้ไม่ให้ตัวแห้งรูปร่างเรียวยาว ลำตัวด้านหลังจะโค้งนูนเล็กน้อยส่วนด้านท้องจะเรียบ

กำจัดทากช้าไป ด้วยสารฮีสตามีนและฮีรูดีนซึ่งทำให้เลือดไหลไม่หยุด
ขยาย
กำจัดทากช้าไป ด้วยสารฮีสตามีนและฮีรูดีนซึ่งทำให้เลือดไหลไม่หยุด

[แก้] การดำรงชีวิต

ทากดำรงชีวิตด้วยการดูดเลือดจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและเนื่องจากไม่มีดวงตาจึงอาศัยการจับแรงสั่นสะเทือนจากการเดินของเหยื่อ โดยมันจะคอยชูตัวอยู่ตามพื้นดินหรือไต่ขึ้นไปบนกิ่งไม้ เมื่อเหยื่อเข้าใกล้มันจะใช้อวัยวะที่เรียกว่าแว่นดูด(Sucker) ซึ่งมีทั้งด้านหน้าและด้านท้าย โดยมันจะใช้แว่นท้ายในการยึดเกาะ

เมื่อมันสามารถเกาะผิวเนื้อของเหยื่อแล้วมันจะค่อยๆ ไต่อย่างแผ่วเบาเพื่อหาที่ซ่อนตัว (ในช่วงนี้ใช้เวลาประมาณ 80-90 วินาที ที่เราจะปัดหรือดึงทากออกโดยไม่ต้องเสียเลือด) หลังจากนั้นมันจะใช้แว่นหน้าลงบนผิวเนื้อของเหยื่อเพื่อดูดเลือด โดยทากจะปล่อยสารชนิดหนึ่งคล้ายกับยาชาและเวลาที่ทากดูดเลือดมันจะปล่อยสารออกมา 2 ชนิด ซึ่งได้แก่ สารฮีสตามีน(Histamine) ช่วยกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว และสารฮีรูดีน(Hirudin) มีคุณสมบัติต้านทานการแข็งตัวของเลือด (ด้วยเหตุนี้เลือดของเหยื่อจะไหลไม่หยุด)

เมื่อทากดูดเลือดอิ่มแล้วจะมีลักษณะตัวอ้วนสีดำแล้วจึงจะปล่อยตัวเองร่วงลงสู่พื้นดิน

ภาพ X-ray ของทาก
ขยาย
ภาพ X-ray ของทาก

[แก้] การห้ามเลือดหลังจากโดนทาก

ใช้ใบสาบเสือ ยาเส้นหรือยาฉุนมาขยี้ปิดบาดแผล

[แก้] ประโยชน์ทางด้านการแพทย์

วงการแพทย์สมัยโบราณมีการนำทากมาดูดพิษหรือเลือดเสียออกจากร่างกาย ในปัจจุบันแพทย์นำคุณสมบัติของทากมาทำให้เส้นเลือดในร่างกายไม่อุดตัน โดยเฉพาะเส้นเลือดหัวใจหรือนำมาช่วยให้เลือดในร่างกายหมุนเวียนได้ดีขึ้น

[แก้] เว็บไซด์อ้างอิง