STEREOSCOPIC photography
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
|
คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้! โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นช่วยกันตรวจสอบและแก้ไขบทความให้มีลักษณะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ต่อไป กรุณาเปลี่ยนไปใช้ป้ายข้อความอื่น เพื่อระบุสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ หรือแก้ไข ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วิธีการแก้ไขหน้าพื้นฐาน คู่มือ และ นโยบายวิกิพีเดีย - เมื่อแก้ไขตามนโยบายแล้ว สามารถนำป้ายนี้ออกได้ |
stereoscopic photograpry
ภาพ 3 มิติ
วิวัฒนาการของ stereoscopic
- ในปี ค.ศ. 1838 บุคคลแรกที่ค้นคิดหลักการของการมองภาพแบบสเตริโอ (stereoscopic vision) คือ Sir Charles Wheatston
- ในปี ค.ศ. 1839 Henry Fox Talbot และ Daguerre คิดค้นกรรมวิธีล้างอัดภาพ ผู้คนก็เริ่มถ่ายภาพ 3 มิติ ซึ่งมีคุณภาพดี เทียบกับภาพ 3 มิติ ที่ถ่ายในปัจจุบัน ต่างกันก็ตรงที่การล้างอัดภาพ มีค่าใช้จ่ายสูงมากในตอนนั้น และอุปกรณ์ดูภาพ 3 มิติ ก็ยังมีน้อย และไม่ค่อยแพร่หลาย
- ในปี ค.ศ.1850 เมื่อ David Brewster ประดิษฐ์ albumen print และ อุปกรณ์ดูภาพ ที่มีราคาถูก และ Oliver Wendall Homes ที่ประดิษฐ์อุปกรณ์ดูภาพที่มีราคาถูกยิ่งกว่า
หลักการง่ายๆ ของการถ่ายภาพ 3 มิติ ก็คือการถ่ายภาพจำนวน 2 ภาพ ของวัตถุเดียวกัน ในมุมที่ต่างกันเล็กน้อย หลังจากนั้น จึงใช้เทคนิคของการดูภาพ 3 มิติ วิธีใดวิธีหนึ่ง เพื่อส่งภาพแต่ละภาพ ให้ตาทั้งสอง ซึ่งจะถูกผสมรวมกันในสมองของเราอีกครั้งหนึ่ง ทำให้เราเห็นภาพดังกล่าว ในลักษณะ 3 มิติ
ข้อสำคัญของการถ่ายภาพ 3 มิติ
- เลนส์ทั้ง 2 ตัว ต้องมีทางยาวโฟกัสเท่ากัน
- แนวการถ่ายภาพทั้ง 2 ภาพ ต้องขนานกัน
- ระยะห่างระหว่างกล้อง 2 ตัว หรือระยะการเลื่อนกล้อง จะเท่ากับระยะห่างระหว่างลูกตา คือประมาณ 6.5 ซ.ม.
พื้นฐานการถ่ายภาพ 3 มิติ
กระบวนการพื้นฐาน ในการถ่ายภาพ 3 มิติ มีอยู่ 5 วิธีด้วยกัน คือ
- กล้อง 1 ตัว ถ่ายภาพ 2 ภาพ โดยถ่ายทีละภาพ ในเวลาใกล้เคียงกัน
- กล้อง 1 ตัว ถ่ายภาพ 2 ภาพ ผ่านเลนส์ 2 ตัว ในเวลาเดียวกัน เช่น
vivitar 3D
- กล้อง 1 ตัว ถ่ายภาพ 1 ภาพ ผ่านเลนส์ 1 ตัว ที่มี beam splitter ในเวลาเดียวกัน ทำให้ได้ภาพ 2 ภาพ คู่กัน บนภาพ 1 ใบ
- กล้อง 2 ตัว ติดตั้งข้างกัน ถ่ายภาพ 2 ภาพ ในเวลาเดียวกัน
- กล้อง 1 ตัว ถ่ายภาพ 3 - 4 ภาพ ในเวลาเดียวกัน
วิธีที่ 1,2, 3, และ 4 เป็นวิธี 'มาตรฐาน' ในการถ่ายภาพ 3 มิติ โดยจะได้ภาพ 2 ภาพ ที่ใช้ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ หรือ อุปกรณ์ดูภาพ 3 มิติ ในการสร้างภาพ 3 มิติ ให้ผู้ชม ในขณะที่ วิธีที่ 5 เป็นวิธีที่ 'ทันสมัย' กว่า ที่ต้องผ่านกระบวนการพิมพ์ภาพ ภายใต้ พื้นผิวที่เรียกว่า 'lenticular' ที่ทำให้ตาของเรา มองเห็นภาพมุมต่างๆ กัน ของวัตถุเดียวกัน
ข้อแนะนำ และข้อควรระวังของการถ่ายภาพ 3 มิติ โดยใช้กล้องตัวเดียว
- ถ่ายภาพทั้ง 2 ภาพ ให้เร็วที่สุด เพื่อลดโอกาสที่ส่วนประกอบต่างๆ ในภาพ จะเคลื่อนที่
- ควรเลือกถ่ายภาพในขณะที่ลมสงบ ไม่มีใบไม้ปลิว หรือกิ่งไม้ไหว หรือเมฆ
- ให้มีวัตถุใน foreground เพื่อให้ภาพมีมิติ
- ใช้ หน้ากล้องแคบๆ เพื่อให้ความชัดลึกสูงที่สุด
- ใช้ exposure เหมือนกัน ทั้งสองภาพ
ระบบต่างๆ ของภาพ 3 มิติ และการดูภาพ 3 มิติ
- ภาพคู่ Stereo Pairs
Stereo Pairs คือการถ่ายภาพ 2 ภาพ ที่มีความห่างที่พอเหมาะ หลังจากการพิมพ์ภาพ เราสามารถดูภาพ 3 มิติ ได้หลายวิธี
1. การดูแบบสลับตาด้วยตาเปล่า (Cross-Eye View)
การดูภาพ stereo pair นั้น สามารถดูได้โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องมือช่วย โดยการวางภาพขวา ไว้ด้านซ้าย และวางภาพซ้ายไว้ด้านขวา จากนั้น ใช้ตาขวาดูภาพด้านซ้าย และใช้ตาซ้ายดูภาพด้านขวา เมื่อเริ่มดูภาพ ภาพทั้งสองจะค่อยๆ เคลื่อนเข้าหากัน จนเกิดการ 'รวม (fused)' ของภาพ และเกิดเป็นภาพ 3 มิติ
2. การดูแบบขนานด้วยตาเปล่า
3. การดูแบบขนาน ด้วย Stereo Viewer
- หลักการของ viewer หรืออุปกรณ์ดูภาพ 3 มิติ ก็คือการแยกการมองของตาแต่ละข้าง ให้สามารถเห็น และโฟกัส รูปซ้าย-ขวา ที่เหมาะสม
- กล้องดูสไลด์ 3 มิติ น่าจะเป็นกล้องที่มีความสะดวกในการดูภาพมากที่สุดแบบหนึ่ง เนื่องจากผู้ดู ไม่ต้องกังวลกับระยะห่างระหว่างภาพ เหมือนกับการดูภาพถ่ายทางอากาศ
แค่ใส่ภาพซ้าย-ขวา ให้ถูกต้อง
สเตริโอสโคป : ขนาดเล็กเช่นนี้ใช้ดูภาพขนาดเล็กๆ
ภาพเหลื่อม Anaglyph Image
- ในปี ค.ศ.1891 การสร้างภาพ Anaglyph Du Hauron นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส เป็นผู้คิดค้นระบบภาพเหลื่อม
- การสร้างภาพ Anaglyph คือการปรับสีภาพ stereo 2 ภาพ แล้วนำมาซ้อนเหลื่อมกัน การดูภาพ Anaglyph นี้ ต้องอาศัยแว่นตาพิเศษ ที่มีสองสี
ตามมาตรฐานแล้ว มักใช้สีน้ำเงินสำหรับตาขวา และสีแดงสำหรับตาซ้าย
- ภาพที่เป็น Anaglyph แท้ (Pure Anaglyph) นั้น ต้นแบบจะทำจากภาพ ขาว-ดำ 2 ภาพ ปรับสีให้เป็นสีแดง และน้ำเงิน ภาพสี ก็สามารถนำมาใช้ทำภาพ Anaglyph ได้
แต่ได้ผลออกมาไม่ดีนัก เนื่องจากสีจะเพี้ยน
Pulfrich Images (3D effect สำหรับ วีดีโอ)
แว่นตา 3 มิติ ที่ขายพร้อมกับ VCD สารคดี 3 มิติ
Polarized Images Using Polarized Glasses
- ระบบดูภาพ 3 มิติ รุ่นใหม่ บน จอ Monitor ประกอบด้วย ซอฟต์แวร์ , จอ Monitor พิเศษ ที่มี 2 ชั้น , mouse พิเศษ, และแว่นตา ที่เป็น polarizer
แว่นตา ที่เป็น polarizer
- ระบบที่เห็นนี้ ใช้ในการแปลภาพดาวเทียมที่เป็น stereo
คำนิยาม
~ parallax
- ปรากฏการณ์ ที่แสดงความแตกต่างของตำแหน่งของวัตถุ เมื่อมองจากตาต่างข้างกัน เพื่อทดลองเกี่ยวกับ parallax ให้ลองยกนิ้วชี้ขึ้น ให้ตรงกับจมูก
ห่างจากตาทั้งสองข้างประมาณ 1 ฟุต หลับตาซ้าย และใช้ตาขวามองนิ้ว หลังจากนั้น ให้หลับตาขวา และใช้ตาซ้ายมองแทน เราจะเห็นนิ้วชี้กระโดดไปมา เนื่องจากผลของ parallax