วัฒนธรรมมือสอง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บทความนี้ต้องการตรวจสอบและยังไม่สมบูรณ์
บทความนี้ ต้องการการตรวจสอบหรือแก้ไขบางส่วน ซึ่งไม่แน่ใจหรือไม่ทราบในสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ
คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้! โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นช่วยกันตรวจสอบและแก้ไขบทความให้มีลักษณะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ต่อไป
กรุณาเปลี่ยนไปใช้ป้ายข้อความอื่น เพื่อระบุสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ หรือแก้ไข
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วิธีการแก้ไขหน้าพื้นฐาน คู่มือ และ นโยบายวิกิพีเดีย - เมื่อแก้ไขตามนโยบายแล้ว สามารถนำป้ายนี้ออกได้
บทความนี้มีลักษณะที่ไม่เป็นสารานุกรม
บทความนี้ได้รับแจ้งว่ามีลักษณะไม่เป็นสารานุกรม อาจมีลักษณะคล้ายพจนานุกรม คู่มือ หรือเอกสารต้นฉบับ ซึ่งไม่ตรงตามนโยบายของวิกิพีเดีย
คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้! โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นแก้ไขเนื้อหาให้มีลักษณะเป็นบทความสารานุกรม
หรือย้ายบทความนี้ไปยังโครงการพี่น้องที่เหมาะสม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เงื่อนไขในการนับว่าเป็นสารานุกรม อะไรที่ไม่ใช่วิกิพีเดีย โครงการพี่น้อง และ นโยบายวิกิพีเดีย

วัฒนธรรมมือสอง เป็นวิถีชีวิตที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ การบริโภคนิยมแต่เพียงเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันผู้คนมักชอบขวนขวายซื้อหาข้าวของมากมายในขณะที่ไม่รู้ว่าจะซื้อไปทำไมในเทศกาลลดราคาของบรรดาห้างสรรพสินค้า ดังนั้นจึงส่งผลให้เกิดอุปสงค์-อุปทานที่ต้องเร่งทำการผลิตอันต้องใช้ "ทรัพยากรธรรมชาติ" มาเป็นต้นทุน และสำคัญตรงที่การผลิตแบบอุตสาหกรรมนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีสารพิษตกค้างจากกระบวนการผลิต

ซึ่งวัฒนธรรมมือสองก็หมายถึง การนำกลับมาใช้ใหม่นั่นเอง ไม่ใช่เป็นกระแสนิยมตามแฟชั่นที่ใส่เสื้อยืดมือสอง กางเกงยีนส์ลีวายส์มือสอง อย่างที่เข้าใจตามรูปศัพท์"มือสอง" หากแต่รวมไปถึงการซื้อของเก่าตามร้านเซียงกง การซื้อของหลุดจำนำ การซื้อของจากตลาดคลองถม รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนสินค้า/วัตถุต่างๆที่ไม่ใช่ของใหม่ป้ายแดงแกะกล่อง เป็นต้น

หรือจะมองอีกนัยยะหนึ่งคือ การรับเอาวัฒนธรรมอื่นมาเป็นวิถีชีวิตของตนเองจนกลายเป็นวัฒนธรรมมือสอง อย่างเช่นประเทศญี่ปุ่นที่รับเอาอักษรจีนมาปรับเปลี่ยนเป็นตัวหนังสือของตัวเอง หรือการที่ประเทศ ๆ หนึ่งรับเอามายาคติ ฐานความเชื่อ ความคิดมาปรับใช้ หรือรับเอามาทั้งหมดก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมมือสองอีกนัยยะหนึ่ง

แต่สาระสำคัญของวัฒนธรรรมมือสองคือ การใช้หลัก 3 R คือ

  1. Reduce ลด เช่น การลดการใช้ภาชนะประเภทใช้แล้วทิ้ง
  2. Reuse ใช้ซ้ำ เช่น การนำขวดน้ำปลามาใช้ซ้ำ
  3. Recycle แปรใช้ใหม่[1] เช่น นำกระป๋องน้ำอัดลมเก่าไปหลอมใช้ใหม่ เป็นต้น

การนำวัฒนธรรมมือสองในความหมายแรกมาใช้ในชีวิตประจำวัน จะเป็นผลดีต่อการลดปัจจัยการผลิตเชิงอุตสาหกรรมให้เข้าข่ายการผลิตเชิงนิเวศ โดยวัดสวนแก้วของพระพยอมนั้นได้เป็นแบบอย่างของการสร้างวัฒนธรรมมือสอง เพื่อลดการรบกวนทรัพยากรธรรมชาติด้วยการนำกลับมาใช้ให้คุ้ม รวมไปถึงร้านค้าของเก่าเซียงกง ตลาดนัดคลองถม เช่นกัน

[แก้] อ้างอิง

  1. ใช้ตามศัพท์บัญญัติของราชบัณฑิตยสถาน ดู แปรใช้ใหม่ (recycle)