สมรักษ์ คำสิงห์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ (มวยไทย)
สมรักษ์ คำสิงห์ ในวันที่ได้รับเหรียญทอง
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อจริง สมรักษ์ คำสิงห์
ฉายา โม้อมตะ
วันเกิด 16 มกราคม พ.ศ. 2516
สถานที่เกิด จังหวัดขอนแก่น
รุ่น เฟเธอร์เวท
สถิติ
ชก
ชนะ
ชนะน็อก
แพ้
เสมอ

สมรักษ์ คำสิงห์ คือนักมวยชาวไทยคนแรกที่ได้เหรียญทองจากการแข่งขันชกมวยในโอลิมปิก ครั้งที่ 26 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในปีพ.ศ.2539 (ค.ศ.1996)

[แก้] ประวัติ

สมรักษ์เป็นชาวหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ จังหวัดขอนแก่น เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2516 ในครอบครัวยากจน เหตุที่มีชื่อเล่นว่า "บาส" ก็เพราะต้องการให้คล้องกับชื่อเล่นของพี่ชายซึ่งเป็นนักมวยด้วยเหมือนกันคือ สมรถ คำสิงห์ ที่มีชื่อว่า " บัส " เนื่องจากคลอดบนรถโดยสาร ระหว่างเดินทางไปสถานีอนามัยอำเภอ ด้วยเหตุที่สมรักษ์มีพ่อเป็นนักมวยเก่าจึงได้รับการฝึกการชกมวยไทยมา โดยตอนแรกๆก็ขึ้นชกมวยตามเวทีงานวัดต่างๆ ต่อมาได้ไปเรียนที่ โรงเรียนผดุงศิษย์พิทยา ได้ชกทั้งมวยไทย และมวยสากล การชกมวยทีมชาติ ไปครั้งแรกในโอลิมปิกที่บาร์เซโลนา ในปี พ.ศ.2535 แต่ตกรอบแรก สมรักษ์เริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็นนักกีฬาไทยที่ได้เหรียญทองเพียงคนเดียวในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 12 ในปี พ.ศ. 2537 ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น (ภายหลังสภาโอลิมปิคเอเชีย ได้มีการกลับคำตัดสินให้ รัฐพงษ์ ศิริสานนท์ นักว่ายน้ำได้ 2 เหรียญทอง) และในที่สุดเป็นที่โด่งดังจากปี พ.ศ.2539 เมื่อสมรักษ์สามารถคว้าเหรียญทองจากโอลิมปิกมาได้ โดยชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรีย ด้วยคะแนน 8-5 เส้นทางสู่ทองประวัติศาสตร์เริ่มจากรอบแรกเอาชนะแดเนี่ยล เซต้า นักชกเปอร์โตริโก 13-2, รอบสอง ชนะฟิลิป เอ็นดู จากแอฟริกาใต้ 12-7, รอบสามหรือรอบก่อนรองชนะ รามาส พาเลียนี่ จากรัสเซีย 13-4 นั่นหมายถึงว่าได้เหรียญทองแดงคล้องคอไว้แล้ว และสมรักษ์ชนะ พาโบล ชาคอน จากอาร์เจนตินาไปได้ 20-8 และท้ายที่สุดเอาชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรียไปได้

ภายหลังจากได้เหรียญทองแล้ว สมรักษ์กลายเป็นบุคคลชื่อดังไปในทันที กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ในเวลาไม่นาน ด้วยความเป็นคนมีบุคคลิกเฮฮา มีสีสัน น่าสนใจ ภายหลังจากกลับมาจากโอลิมปิคที่แอตแลนต้าแล้ว สมรักษ์ก็มีงานในวงการบันเทิงเข้ามา เริ่มจาก ละครเรื่อง " นายขนมต้ม " ทางช่อง 7 ที่รับบทเป็นนายขนมต้มพระเอกเอง โดยประกบคู่กับ กุลณัฐ ปรียะวัฒน์ นางเอก และเพื่อน ๆ นักมวยรุ่นพี่อีกหลายคน

และนับแต่นั้นมา สมรักษ์ก็มีสถานะเหมือนเป็นดาราคนหนึ่งไปโดยปริยาย มีงานต่าง ๆ เข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้สมรักษ์เอาใจใส่ในการชกมวยน้อยลง จนมีข่าวว่าเขาซ้อมน้อยลง หนีซ้อมบ้าง เป็นต้น แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าฝีมือของตัวเองยังคงเหมือนเดิม ถึงขนาดกล้าทำนายผลการชกล่วงหน้า ซึ่งก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง จนได้ฉายาว่า " โม้อมตะ " แต่หลังจากได้รับเหรียญทองใน ปี พ.ศ. 2539 แล้ว การชกครั้งต่อมา สมรักษ์ไม่ประสบความสำเร็จเลย โดยตกรอบสาม ในการแข่งขันโอลิมปิกที่ซิดนีย์ ปี พ.ศ. 2543 และตกรอบแรกในโอลิมปิกที่เอเธนส์ ปี พ.ศ. 2547 ทำให้เลิกชกมวยอย่างเด็ดขาด

ปัจจุบัน สมรักษ์ยังคงมีงานในวงการบันเทิง มีผลงานออกมาเป็นระยะ ๆ มีกิจการของตัวเอง เช่น ร้านหมูกระทะ ชื่อ " สมรักษ์ย่างเกาหลี " ย่านเกษตร และมีค่ายมวยของตนเอง ชื่อค่าย " ส.คำสิงห์ "

[แก้] ชื่อนักมวยอื่นๆ

  • พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ (มวยไทย)

[แก้] เกียรติประวัติ

  • เหรียญทองกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 12 พ.ศ. 2537 ที่ฮิโรชิมารุ่นเฟเธอร์เวท
  • เหรียญทองกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 18 พ.ศ. 2538 ที่เชียงใหม่
  • เหรียญทองกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 26 พ.ศ.2539 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา
  • เหรียญทองกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2541 ที่ กรุงเทพฯ
  • เป็นนักมวยไทยคนแรกที่ผ่านรอบคัดเลือกเป็นตัวแทนทวีปเอเชียไปแข่งขันรอบสุดท้ายในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน คือ
    • กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 25 พ.ศ.2535 ที่เมืองบาร์เซโลนา ตกรอบแรก
    • กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 26 พ.ศ.2539 ที่เมืองแอตแลนตา ได้เหรียญทอง
    • กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 27 พ.ศ.2543 ที่เมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย ตกรอบ 8 คนสุดท้าย
    • กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 28 พ.ศ.2547 ที่เมืองเอเธนส์ กรีซตกรอบแรก


  สมรักษ์ คำสิงห์ เป็นบทความเกี่ยวกับ นักกีฬา โค้ช หรือผู้เกี่ยวข้องในวงการกีฬา ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ สมรักษ์ คำสิงห์ ในภาษาอื่น สามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ๆ ด้านซ้ายมือ
ภาษาอื่น