การให้รางวัลเพื่อปรับพฤติกรรมมนุษย์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บทความนี้ต้องการตรวจสอบและยังไม่สมบูรณ์
บทความนี้ ต้องการการตรวจสอบหรือแก้ไขบางส่วน ซึ่งไม่แน่ใจหรือไม่ทราบในสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ
คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้! โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นช่วยกันตรวจสอบและแก้ไขบทความให้มีลักษณะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ต่อไป
กรุณาเปลี่ยนไปใช้ป้ายข้อความอื่น เพื่อระบุสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ หรือแก้ไข
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วิธีการแก้ไขหน้าพื้นฐาน คู่มือ และ นโยบายวิกิพีเดีย - เมื่อแก้ไขตามนโยบายแล้ว สามารถนำป้ายนี้ออกได้

งานวิจัยจำนวนมากที่ทำการศึกษาเรื่องแรงจูงใจในการปฏิบัติงานภายในองค์กร พบตรงกันว่ากลุ่มคนทำงานที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง และมีความทะเยอทะยาน เมื่อให้ตอบแบบสอบถามว่าพนักงานต้องการอะไรจากผู้บริหารมากที่สุด คำตอบที่ได้เป็นไปในลักษณะที่คล้ายคลึงกันคือ ต้องการให้ผู้บริหารรับรู้ และเข้าใจความสามารถของเขาอย่างจริงจัง ส่วนเรื่องรายได้นั้นกลับเป็นความต้องการท้ายๆไป

วิธีการที่ดีที่สุดในการให้รางวัลแก่คน (ทุกคนในโลกนี้)

- จิตวิทยาของการให้รางวัลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด -

ในการให้รางวัลแก่พฤติกรรมใด เพื่อหวังให้พฤติกรรมนั้นคงทนหรือมีโอกาสเกิดขึ้นในโอกาสต่อไป จำเป็นต้องปฏิบัติตามแนวนี้:

1. จงบอกเขาให้ชัดเจนว่าท่านต้องการให้เขาแสดงพฤติกรรมอะไร และอย่างไร โดยธรรมชาติคนเราจะปฏิเสธที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่งด้วยเหตุสองประการคือ เพราะเชื่อว่าตัวเองไม่มีความสามารถที่จะทำได้ หรือเพราะประเมินล่วงหน้าแล้วเห็นว่าผลที่ได้จากการกระทำนั้นมันไม่คุ้มกับการทำลงไป การบอกให้เขารู้อย่างชัดเจน จะช่วยให้เขาประเมินตนเองพร้อมๆกับประเมินผลของการกระทำไปในตัวว่าควรจะลงมือทำหรือไม่

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นที่สำคัญมากที่สุด เพราะเป็นขั้นของการบอกให้รู้ตัว ถ้าทำไม่ถูก หรือไม่เหมาะสม แผนงานต่อๆไปก็จะล้มเหลวทั้งหมด วิธีบอกที่ดีคือ บอกพฤติกรรมที่พึงประสงค์ระคนไปกับการพูดถึงคุณสมบัติที่ดีในตัวเขา ตัวอย่างเช่น " คุณเอก งานขึ้นแบบสินค้าตัวอย่างของคุณชิ้นนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ ผมนำไปเสนอลูกค้าหลายคน ทุกคนชอบแบบนี้มาก แต่การที่คุณไม่ค่อยจะรับฟังความเห็นของฝ่ายผลิตบ้าง อาจมีผลทำให้ฝ่ายผลิตไม่ค่อยให้ความร่วมมือที่จะทำการผลิตสินค้าตัวนี้ออกมานะครับ...." นอกจากนั้นน้ำเสียงรวมทั้งการใช้ภาษาท่าทาง จะมีความสำคัญมากในขั้นตอนนี้ด้วยเช่นกัน ใบหน้าที่ไม่บึ้งตึง น้ำเสียงที่เอาจริงเอาจังที่อยากช่วยเหลือ แววตาที่แสดงความปราณี ไม่มีท่าทีข่มขู่บังคับ ฯลฯ องค์ประกอบเหล่านี้มีส่วนช่วยให้เกิดการยอมรับได้ง่ายขึ้น

2. จงให้รางวัลทันทีที่เขาทำพฤติกรรมที่พึงประสงค์นั้นเสร็จลง ต้องให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ให้รางวัลทันที พร้อมทั้งกล่าวชมเชย ( ให้รางวัลทางวาจา) ควบคู่ไปด้วย เพื่อที่จะให้เกิดความสัมพันธ์อย่างชัดเจน แน่นแฟ้นระหว่างพฤติกรรมนั้นกับรางวัลที่ได้รับ ตัวอย่างระบบราชการแบบเดิมๆ ทำดีเมื่อต้นปี มาได้สองขั้นตอนเกือบสิ้นปี แบบนี้ได้ผลน้อยมาก หรือไม่ได้ผลใดๆเลยต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

3. จงตรวจสอบให้แน่ใจว่ารางวัลนั้นเป็นสิ่งที่เขาปราถนาอย่างแท้จริง

รางวัลที่เขาไม่อยากได้ ย่อมไม่มีค่าเป็นรางวัลอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น รางวัลสำหรับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ที่ทำความดี กรมการปกครองจะมอบแหนบทองคำ และปืนยาวให้ ซึ่งเป็นประเพณีที่ทำสืบต่อกันมานับสิบๆปีแล้ว ปัจจุบันไม่ใช่ยุคไดโนเสาร์แล้ว แต่เป็นยุคดิ๊จิตัล กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านจะเอาปืนยาวไปยิงใคร ? โรงเรียนบางแห่ง ประกวดแข่งขันคณิตคิดเร็ว เด็กก็แข่งขันความสามารถกันจนหน้าเขียว หน้าดำ ไปตามๆกัน สุดท้ายผู้ชนะลำดับที่ 1 ได้ผ้าขนหนูหนึ่งโหล ผู้ชนะลำดับที่ 2 ได้ผ้าขนหนูครึ่งโหล และผู้ชนะที่3 ได้ผ้าขนหนู 3 ผืน ? แสดงให้เห็นถึงระดับไอคิวทั้งทางวิชาการ และทางอารมณ์ของครูยุคปัจจุบันอย่างชัดเจน ผลลัพธ์คือผ้าขนหนูที่เด็กได้วางเรี่ยราดอยู่ที่สนามเด็กเล่นในโรงเรียน หรือไม่ก็ทิ้งไว้ที่บ้านรอให้คุณพ่อเอาไปใช้ !

จะให้รางวัลคนเรากันทั้งที สอบถามเขาหน่อยสิครับว่าเขาต้องการอะไร อาจเป็นการถามอ้อมๆเพื่อสืบเสาะดูว่าเขาต้องการอะไรมากที่สุดในชีวิต หรือหาโอกาสในช่วงกิจกรรมงานกีฬาของหน่วยงานออกเป็นแบบสอบถามก็ได้

4. จงให้รางวัลแก่เขาทุกครั้งที่เขากระทำพฤติกรรมที่พึงประสงค์ออกมาในตอนแรก จนแน่ใจว่าเขาสามารถกระทำพฤติกรรมนั้นได้อย่างถูกต้อง หลังจากนั้นจึงค่อยๆลดความถี่ของการให้รางวัลลงไปเรื่อยๆ จนเป็นแบบให้บ้าง ไม่ให้บ้าง ไม่แน่นอน โดยธรรมชาติของคน เมื่อทำดี และได้รับรางวัลแล้วจะเกิดภาวะอิ่มตัวชั่วขณะ เขาจะไม่อยากได้รางวัลนั้นชั่วคราว ยิ่งถ้ารางวัลนั้นมีขนาดใหญ่ ก้จะเกิดภาวะอิ่มตัวนานมากขึ้น) ดังนั้นผู้ให้รางวัลจะต้องเปลี่ยนประเภทของรางวัลที่ให้ด้วยไม่จำเป็นต้องให้เหมือนๆกันในทุกครั้ง และระยะแรกๆอาจเป็นรางวัลทางวัตถุ หลังอาจสลับเป็นการพูดชมเชยต่อหน้าพนักงานคนอื่นๆ รวมทั้งจะต้องค่อยๆลดความถี่ของการให้รางวัลลงตามลำดับ ไปจนถึงระดับที่เขาไม่สามารถทำนายได้ว่าเขาจะได้รางวัลเมื่อใดอีก ซึ่งจะมีผลทำให้เขาต้องแสดงพฤติกรรมที่พึงประสงค์นั้นอย่างต่อเนื่อง