พระอภัยมณี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ภาพ:Lineart roof.jpg
พระอภัยมณี
กวี : สุนทรภู่
ประเภท : นิทานคำกลอน
คำประพันธ์ : กลอนสุภาพ
ความยาว : 94 เล่มสมุดไทย
สมัย : ต้นรัตนโกสินทร์
ปีที่แต่ง : ราวรัชกาลที่ 3
ชื่ออื่น :
ลิขสิทธิ์ :
ภาพ:Lineart threshold.jpg

พระอภัยมณี เป็นวรรณคดีชิ้นเยี่ยมเล่มหนึ่งของไทย ทั้งยังมีความยาวมากถึง 94 เล่มสมุดไทย เมื่อพิมพ์เป็นเล่มหนังสือ มีความยาวกว่าหนึ่งพันสองร้อยหน้า ผู้แต่งคือพระสุนทรโวหาร หรือสุนทรภู่ กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์นับเป็นวรรรณคดีไทยที่มีชื่อเสียงในอับดันต้นๆ ทั้งยังได้รับการถ่ายทอดในรูปแบบต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องเล่าร้อยแก้ว นิทานภาพ รวมทั้งภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์

สารบัญ

[แก้] ประวัติ

สุนทรภู่น่าจะได้แต่งเรื่องพระอภัยมณีตั้งแต่ครั้งสมัยรัชกาลที่ 2 โดยค่อยแต่งทีละเล่มสองเล่มเรื่อยไป และยังแต่งๆ หยุดๆ เป็นหลายครั้ง ในตอนแรกเขียนจบไว้ที่ 49 เล่มสมุดไทย ตอนพระอภัยมณีออกบวช แต่กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพทรงมีรับสั่งให้แต่งต่อ ในที่สุดจึงได้ความยาวถึง 94 เล่มสมุดไทย ทว่านักวรรณคดีบางท่านเสนอความเห็น ว่าในเล่มหลังๆ อาจไม่ใช่สำนวนของสุนทรภู่เพียงคนเดียว

[แก้] เนื้อเรื่อง

เริ่มต้นที่กรุงรัตนา ที่มีท้าวสุทัศน์และพระนางประทุมเกสร มีพระโอรสสององค์ คือ พระอภัยมณี และศรีสุวรรณ พระบิดารับสั่งให้โอรสทั้งสองไปเรียนศิลปวิทยา ในที่สุดพระอภัยมณีได้เรียนวิชาปี่ ขณะที่ศรีสุวรรณได้เรียนวิชากระบี่กระบอง เมื่อสำเร็จวิชา ก็ได้เสด็จกลับคืนพระนคร ทว่าพระบิดาทรงกริ้ว ด้วยพระโอรสไปเรียนวิชาชั้นต่ำ ไม่คู่ควรแก่กษัตริย์ จึงไล่ทั้งสองออกจากพระนคร แล้วการผจญภัยของพระอภัยมณีและศรีสุวรรณก็เริ่มต้นตั้งแต่ต้น

ทั้งสองได้พบปะกับผู้คนมากมาย ต่างได้พบคู่และอยู่ร่วมกันฉันท์ผัวเมีย และพบเหตุเพทภัยนานาอย่างน่าตื่นเต้น และสนุกสนาน โดยเฉพาะเมื่อมีตัวละครเด่นขึ้นมาประกอบอีกหลายตัว เช่น สินสมุทร และสุดสาคร โอรสของพระอภัยมณี รวมถึงนางยักษ์ผีเสื้อสมุทร โดยมีฉากสำคัญๆ หลายบทหลายตอนด้วยกัน

[แก้] คำประพันธ์

คำประพันธ์ในเรื่องพระอภัยมณี เป็นกลอนสุภาพทั้งหมด ด้วยเป็นความถนัดอย่างพิเศษของกวีผู้นี้ ภาษาที่ใช้มีความเรียบง่ายตามแบบฉบับของสุนทรภู่ มีสัมผัสในไพเราะงดงามโดยตลอด ทำให้เป็นที่นิยมอ่านเรื่อยมา แม้ในปัจจุบัน

[แก้] ข้อความหัวเรื่อง

เนื้อเรื่อง พระอภัยมณีได้นางเงือกเป็รภรรยา แล้วได้ลูกชื่อว่า สุดสาคร อายุก็ไล่ประมาณสินสมุทรซึ่งสินสมุทรเป็นพี่ชายของสุดสาครหลังปราบนางยักษ์ได้แล้ว สุดสาครได้ออกตามหาพ่อแล้วได้ม้านิลมังกรเป็นเพื่อน

[แก้] บทกลอนจากพระอภัยมณี

ความไพเราะของถ้อยคำและสำนวนในนิทานคำกลอนเรื่องพระอภัยมณี ทำให้มีผู้ที่ชื่นชอบ และท่องบทกลอนจากเรื่องนี้ได้หลายบท ในที่นี้ขอยกบทกลอนที่รู้จักกันดีมาให้ได้อ่าน ดังนี้

  • บทเริ่มต้น


แต่ปางหลังยังมีกรุงกษัตริย์
สมมุติวงศ์ทรงนามท้าวสุทัศน์ ผ่านสมบัติรัตนานามธานี
อันกรุงไกรใหญ่ยาวสิบเก้าโยชน์ ภูเขาโขดเป็นกำแพงบูรีศรี
สะพรึบพร้อมไพร่ฟ้าประชาชี ชาวบูรีหรรษาสถาวร
มีเอกองค์นงลักษณ์อรรคราช พระนางนาฏนามประทุมเกสร
สนมนางแสนสุรางคนิกร ดังกินนรน่ารักลักขณา
มีโอรสสององค์ล้วนทรงลักษณ์ ประไพพักตรเพียงเทพเลขา
ชื่ออภัยมณีเป็นพี่ยา พึ่งแรกรุ่นชันษาสิบห้าปี
อันกุมารศรีสุวรรณนั้นเป็นน้อง เนื้อดังทองนพคุณจำรุณศรี
พึ่งโสกันต์ชันษาสิบสามปี พระชนนีรักใคร่ดังนัยนาฯ  


  • เมื่อพระฤๅษีสอนสุดสาคร หลังถูกชีเปลือยผลักตกหน้าผา เอาม้ามังกรและไม้เท้ากายสิทธิ์ไป


บัดเดี๋ยวดังหงั่งเหง่งวังเวงแว่ว สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา
เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา ประคองพาขึ้นไปจนบนบรรพต
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวจนเลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
อันมนุษย์นี้ที่รักสองสถาน บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน เกิดเป็นคนคิดเห็นเจรจาฯ
แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
จงคิดตามไปเอาไม้เท้าเถิด จะประเสริฐสมรักเป็นศักดิ์ศรี
พอเสร็จคำสำแดงแจ้งคดี รูปโยคีหายวับไปกับตาฯ  


  • นางวาลีเตือนสติพระอภัยมณี เมื่อพระอภัยมณีจะปล่อยอุศเรนไป


ประเวณีตีงูให้หลังหัก มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง
จระเข้ใหญ่ไปถึงน้ำมีกำลัง เหมือนเสือขังเข้าถึงดงก็คงร้าย
อันแม่ทัพจับได้แล้วไม่ฆ่า ไปข้างหน้าศึกจะใหญ่ขึ้นใจหาย
ต้องตำรับจับให้มั่นคั้นให้ตาย จะทำภายหลังยากลำบากครัน
จะพลิกพลิ้วชิวหาเป็นอาวุธ ประหารบุตรเจ้าลังกาให้อาสัญ
ต้องตัดศึกลึกล้ำที่สำคัญ นางหมายมั่นมุ่งเห็นจะเป็นการฯ  


  • เมื่อพระอภัยมณีเป่าปี่ ช่วยศรีสุวรรณ สินสมุทร และพราหมณ์ทั้งสาม


พระโหยหวลครวณเพลงวังเวงจิต ให้คนคิดถึงถิ่นถวิลหวัง
โอ้จากเรือนเหมือนนกที่จากรัง อยู่ข้างหลังก็จะแลชะแง้คอย
ถึงยามค่ำย่ำฆ้องจะร้องไห้ ร่ำพิไรรัญจวนหวลละห้อย
โอ้ยามดึกดาวเคลื่อนเดือนก็คล้อย น้ำค้างย้อยเย็นฉ่ำที่อัมพร
หนาวอารมณ์ลมเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยชื่น ระรวยรื่นรินรินกลิ่นเกสร
แสนสงสารบ้านเรือนเพื่อนที่นอน จะอาวรณ์อ้างว้างอยู่วังเวง
วิเวกแว่วแจ้วเสียงสำเนียงปี่ พวกโยธีทิ้งทวนชนวนเขนง
ลงนั่งโยกโงกหงับทับกันเอง เสนาะเพลงเพลินหลับระงับไปฯ