จิ้งจอกภูเขาหิมะ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
|
คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้! โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นช่วยกันตรวจสอบและแก้ไขบทความให้มีลักษณะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ต่อไป กรุณาเปลี่ยนไปใช้ป้ายข้อความอื่น เพื่อระบุสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ หรือแก้ไข ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วิธีการแก้ไขหน้าพื้นฐาน คู่มือ และ นโยบายวิกิพีเดีย - เมื่อแก้ไขตามนโยบายแล้ว สามารถนำป้ายนี้ออกได้ |
จิ้งจอกภูเขาหิมะ คำอธิบายจากหนังสือสกัดจุดยุทธจักรมังกรหยก
เซาะซัวปวยฮู้ (เสว่ซานเฟยหู) ภาษาไทยมีสำนวนแปลของ น.นพรัตน์ ชื่อเรื่อง 'จิ้งจอกภูเขาหิมะ' เซาะซัวแปลว่าภูเขาหิมะ ปวยฮู้แปลว่าจิ้งจอกบิน ภาพยนตร์โทรทัศน์ชื่อเดียวกับที่น.นพรัตน์ใช้ ส่วนภาพยนตร์เคยสร้างชื่อเรื่อง 'ศึกจิ้งจอกฟ้า
เรื่องนี้กิมย้งแสดงฝีมือการประพันธ์พุ่งโลดไปอย่างเยี่ยมยิ่ง แหวกพ้นแนวตัวละครเด่นทั้งกลุ่มของเรื่อง 'จอมใจจอมยุทธ์' เข้าสู่แนวการเล่าย้อนของเรื่องเพ็กฮ้วยเกี่ยม แต่พัฒนาให้แยบยลซับซ้อนยิ่งขึ้น
ตัวเอกที่แท้จริงของเรื่องนี้ไม่ใช่โอ้วฮุย แต่เป็นเมี้ยวนั้งหง และโอ้วเจ็กตอสองสามีภรรยาผู้หายสาบสูญไปจากยุทธจักร มีแต่เรื่องราวที่ถูกกล่าวขวัญถึง แต่ก็ต่างกับกิมจั๊วนั้งกุนของเรื่องเพ็กฮ้วยเกี่ยมตรงที่เมี้ยวนั้งหงนี้ยังมีชีวิตอยู่ และตอนท้ายเรื่องยังมีชีวิตอยู่ และตอนท้ายเรื่องยังได้ต่อสู้พิสูจน์แพ้ชนะกับโอ้วฮุย การเล่าย้อนถึงเรื่องของเมี้ยวนั้งหงและโอวเจ็กตอนี้ ทำได้ประณีตแยบยลไม่มีข้อบกพร่องอย่างที่เคยมีในเรื่องเพ็กฮ้วยเกี่ยม คำนิยมของอุนสุยอัน (จากหนังสือจิ้งจอกภูเขาหิมะ พิมพ์ครั้งแรกของสนพ.สร้างสรรค์ กุมภาพันธ์ 2543 แปลโดย น. นพรัตน์)
อุนสุยอัน หรืออุนเลี้ยงเง็ก เป็นนักเขียนหนุ่งชาวมาเลย์ เริ่มเขียนนิยายกำลังภายในขณะศึกษาที่ไต้หวัน ปัจจุบันมีถิ่นพำนักที่ฮ่องกง ถือเป็นคลื่นลูกใหม่ของยุทธจักรนิยาย ได้เขียนหนังสือวิจารณ์เรื่อง จิ้งจอกภูเขาหิมะ ของกิมย้งขึ้นมาหนึ่งเล่ม ในโอกาสที่สำนักพิมพ์แก้ไขจัดพิมพ์ จิ้งจอกภูเขาหิมะ ขึ้นใหม่ จึงขอถอดความจากหนังสือวิจารณ์ดังกล่าวมาพอสังเขป ดังนี้
"จิ้งจอกภูเขาหิมะถือเป็นนิยายที่โดดเด่นที่สุดในผลงานของกิมย้ง" "จิ้งจอกภูเขาหิมะ แม้ไม่อาจนับเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตการเขียนของกิมย้ง แต่ในนิยายกำลังภายในของกิมย้งทั้ง 14 เรื่อง จิ้งจอกภูเขาหิมะกอปรด้วย สาม'ที่สุด' กล่าวคือ รูปแบบการเขียนพิเศษเฉพาะที่สุด เค้าโครงกระชับรัดกุมที่สุด ทั้งถือเป็นการหลุดพ้นครั้งสำคัญที่สุดของนิยายกำลังภายใน ตลอดจนนิยายจีนที่สืบทอดติดต่อกันมา" "นิยายกำลังภายในเน้นที่เค้าโครงพล็อตเรื่อง เรื่องราวใช่ดึงดูดใจคนหรือไม่มีความสำคัญหาด้อยไปกว่าความสำเร็จของการปั้นบุคลิกตัวละคร ตลอดจนความสันทัดจัดเจนในเชิงอักษรไม่ จิ้งจอกภูเขาหิมะเขียนในรูปแบบของการ 'เล่าเรื่องราว' ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์พิเศษเฉพาะ ตลอดทั้งเรื่องล้วนเล่าเรื่องราว บางครั้งใช้บุคคลที่แตกต่าง มุมมองที่แตกต่าง เล่าเรื่องราวที่แตกต่าง เรื่องราวที่ทั้งหมดเล่าออกมา รวมกันเป็นเรื่องจิ้งจอกภูเขาหิมะ ทั้งนี้เพราะเรื่องราวเริ่มจากจุดยืน มุมมอง แง่มุมและวัตถุประสงค์ของบุคคลที่แตกต่าง ดังนั้นระหว่างขั้นตอนของการเล่าเรื่องราวนี้ เต็มไปด้วยความพลิกแพลงพิสดาร ซับซ้อนยอกย้อน หักมุมไม่คาดหมาย เปลี่ยนแปลงอย่างคาดไม่ถึง คล้ายร้อยเส้นด้ายพันไยไหม ห่วงโซ่สัมพันธ์ห่วงแล้วห่วงเล่า จากปากคำบุคคลที่แตกต่าง ผ่านน้ำเสียงที่พิเศษเฉพาะ ตลอดจนความคิดเห็นส่วนตัว ทำการเชื่อมต่อเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกัน แต่ก็ดำเนินด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นขั้นเป็นตอน เฉกเช่นภูษาฟ้าไร้ตะเข็บ ปราศจากช่องโหว่ให้จู่โจม" "ด้วยลีลาการเขียนที่ประสบความสำเร็จ ความรู้ในเชิงอักษรอันลึกล้ำ ทำให้เค้าโครงตลอดทั้งเรื่องกระชับรัดกุม ตลอดทั้งเรื่องดำเนินไปภายใต้ช่วงเวลาที่เป็นเอกภาพ ฉากตอนที่เป็นเอกภาพ แทบสอดคล้องกับหลักการ Three Unity ของบทละครตะวันตก ประการสำคัญคือ กิมย้งได้สืบทอดและสร้างสรรค์แนวทางของนิยายจีน ใช้การบรรยายด้วยมุมมองที่แตกต่าง ประชิดใกล้กับข้อเท็จจริงของเรื่องราว ทำให้ลีลาการบอกเล่ายิ่งสนุกสนาน สร้างสรรค์คึกคัก มีชีวิตชีวา" "จิ้งจอกภูเขาหิมะอาจนับเป็นนิยายขนาดกลางที่ดีเด่นที่สุดของนิยายกำลังภายใน นิยายกำลังภายในที่ไม่ยาวนักเรื่องนี้ ขอเพียงตัดทอนบทตอนส่วนที่บรรยายวิทยายุทธ์ทิ้ง ดัดแปลงหลังฉากบู๊ลิ้มเป็นสภาพสังคมปัจจุบันก็จะกลายเป็นนิยายสะท้อนสังคมเรื่องหนึ่ง เขียนได้ประสบความสำเร็จมีไม่มากนัก จิ้งจอกภูเขาหิมะถือเป็นเรื่องที่โดดเด่นที่สุด" "จิ้งจอกภูเขาหิมะยังมีจุดเด่นอีกสองประการ หนึ่ง คือบทอวสานยังไม่จบ เป็นนิยายที่ไม่มีวันเขียนจบเรื่องหนึ่ง บทอวสานปล่อยให้นักอ่านทุกท่านต่อเติมเสริมแต่งได้ สอง ตัวละครสำคัญของเรื่อง เคยปรากฏขึ้นในนิยายอีกเรื่องหนึ่ง (ซึ่งคือจิ้งจอกอหังการ) แต่เนื้อเรื่องของทั้งสองเรื่องไม่ได้ต่อเนื่องกันแต่อย่างไร ตัวละครสำคัญในจิ้งจอกภูเขาหิมะเผยโฉมไม่มาก เขียนถึงน้อยมาก บางตัวละครถึงกับไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น (เช่น โอ้วเจ่กตอสองสามีภรรยา) แต่ด้วยผลงานของนักเขียนขั้นครู ยามบรรยายคล้ายพายุฟ้าพิรุณสมุทร สั่นขวัญสะท้านจิตใจ รูปแบบของวีรบุรุษผู้กล้าเต้นเร่าอยู่ในคลองจักษุ จนผู้คนต้องร้องโพล่งชมเชยออกมา" "ข้าพเจ้าชมชอบจิ้งจอกภูเขาหิมะ นิยายเรื่องนี้ทำให้ผู้คนรับรู้ถึงฝีมือการเขียนที่ทำการจำแนกแจกแจง จากยุ่งเหยิงสู่รวบรัด สูงสุดคืนสู่สามัญ จนสำเร็จขั้นสุดยอด ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง"
อุนสุยอัน 12 ก.ค. 1984
คำตามโดยท่านกิมย้ง
จิ้งจอกภูเขาหิมะ จบลงด้วยการทิ้งท้ายเป็นปริศนา ไม่มีผลสรุปที่แน่ชัด ที่แท้ดาบของโอ้วฮุยนี้จะฟันลงหรือไม่นั้น ขอให้ท่านผู้อ่านนึกจินตนาการเอง
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อ ค.ศ.1959 สิบกว่าปีมานี้เคยมีสหายที่สนิทคุ้นเคยหลายท่าน และนักอ่านที่ไม่รู้จักเป็นจำนวนมาก ประสงค์ให้ข้าพเจ้าเขียนตอน จบที่แน่ชัด หลังจากใคร่ครวญโดยละเอียด ยังคงรักษารูปแบบเดิมจะดีกว่า ให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายมีโอกาสสร้างมโนภาพบ้าง การเคลือบแฝงที่ไม่สิ้นสุด กล่าว ได้ว่าเป็นรสชาติอันสุนทรีชนิดหนึ่ง
ในจิตใจของข้าพเจ้าเคยนึกตอนจบที่ผิดแผกแตกต่างกันเจ็ดแปดประการ บางครั้งการนึกหาผลสรุปที่แตกต่างกัน ก็เป็นความสุขประการหนึ่ง ดาบของโอ้วฮุย จะฟันหรือไม่ฟัน สำหรับโอ้วฮุยเป็นการเลือกเฟ้นประการหนึ่ง และท่านผู้อ่านทุกท่านสามารถอาศัยนิสัยใจคอของตัวเอง อาศัยทัศนคติที่มีต่อโลกและชีวิตของแต่ ละคน ทำการเลือกเฟ้นที่ผิดแผกแตกต่าง
เกี่ยวกับการตายเจ้าช่วงอ๋องลี้จื่อเซ้ง มีคำกล่าวหลายกระแส กระแสที่หนึ่งมาจากหนังสือเหม็งซือ (ประวัติศาสตร์เหม็ง) อ้างว่าลี้จื่อเซ้งถูกชาวชนบททำร้ายถึง แก่อสัญกรรรมที่ภูเขาเก้าเก็งซัว ตอนนั้นมีคำโจษจันว่าถูกทวยเทพสังหาร กระแสที่สองมาจากหนังสือเหม็งกี้ (บันทึกเหม็ง) อ้างว่าลี้จื่อเซ้งถูกชาวชนบทห้อมล้อม กักไว้ไม่อาจฝ่าออกไป จึงอัตวินิบาตกรรม กระแสที่สามมาจากหนังสือเหม็งคุ้ยปักเลี้ยก (ยุคสมัยเหม็งโดยสังเขป) บอกว่าลี้จื่อเซ้งล้มป่วยในกองทัพ ถึงแก่ อสัญกรรมที่ภภูเขาล้อกงซัว กระแสที่สี่บันทึกในหนังสือลี่จิวจี่ว่า ลี้จื่อเซ้งหลบหนีถึงภูเขาเกี๊ยบซัวปลงผมบวชเป็นหลวงจีน จวบจนอายุเจ็ดสิบพรรษาจึง สำเร็จมรรคผล กระแสที่ห้าเป็นจินตนาการในนวนิยายเรื่องโง้วซำกุ่ยอิ้งหงี(เรื่องเล่าของโง้วซำกุ่ย) ถึงกับบอกว่าลี้จื่อเซ้งถูกงู้กิมแชแพร่พิษสังหาร
นิยายอิงประวัติศาสตร์มีอิสระในการสร้างจินตนาการ ไม่จำเป็นต้องถกเถียงกัน คำกล่าวกระแสต่างๆ หลังจากผ่านการศึกษาตรวจสอบของอนุชนรุ่นหลัง คล้าย มีข้อสงสัยทั้งสิ้น เมื่อเขียนเป็นนิยายกำลังภายในไม่จำเป็นต้องรักษาข้อปลีกย่อยให้ตรงตามประวัติศาสตร์ ขอเพียงใจความสำคัญไม่เป็นที่ขัดแย้งก็ใช้ได้แล้ว สำหรับเกร็ดประวัติศาสตร์ที่ไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน ผู้เขียนนวนิยายสามารถเลือกคำกล่าวประการใดประการหนึ่ง ทำการต่อเติมขยายความ
เกี่ยวกับดาบอาญาสิทธิ์ของลี้จื่อเซ้ง ข้าพเจ้าเคยซื้อรูปปั้นเคลือบของเมืองเจี๊ยะอวงมณฑลกวางตุ้งรูปหนึ่งจากร้านโบราณวัตถุ จึงสร้างจินตนาการของดาบ อาญาสิทธิ์ลี้จื่อเซ้งขึ้น สอดแทรกอยู่ใน จ้งจอกภูเขาหิมะ
จิ้งจอกภภูเขาหิมะ หลังจากตีพิมพ์เผยแพร่ทางหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อปี ค.ศ.1959 ไม่ได้จัดพิมพ์ฉบับรวมเล่มที่ได้รับอนุญาตจากผู้แต่งมาก่อน ฉบับ รวมเล่มที่ลอกเลียนปลอมแปลงขึ้น เท่าที่ข้าพเจ้าพบเห็นมีทั้งสิ้นแปดชุด มีหนึ่งเล่มชุด สองเล่มชุด สามเล่มชุด และเจ็ดเล่มชุด ล้วนแล้วแต่เป็นสำนักพิมพ์ต่างๆ ตัพิมพ์โดยพลการ นับว่าได้รับเกียรติจากเขาเหล่านั้น จึงไม่ได้ติดตามเอาความ เพียงแต่ในเล่มมีคำผิดจำนวนมาก ผู้ขโมยพิมพ์ก็แบ่งบท ใส่ชื่อตอนลงไปเอง ไม่ได้สอดคล้องกับเจตจำนงของผู้แต่ง ภาพแทรกในฉบับพิมพ์บางชุดก็ไม่เป็นที่นิยมของผู้แต่ง
บัดนี้ จิ้งจอกภูเขาหิมะ แก้ไขปรับปรุงเขียนขึ้นใหม่ นำลงในหนังสือพิมพ์ เม้งป่อ ฉบับบ่าย ก่อนจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มก็ทำการแก้ไขปรับปรุงอีก หลายเที่ยว ประมาณว่าข้อความในต้นฉบับเดิมได้รับการเขียนใหม่หกเจ็ดส่วน ส่วนที่สะเพร่าบกพร่องในฉบับเดิมส่วนใหญ่ได้รับการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว เพียง แต่ตัวละครในเรื่อง เช่น หลวงจีนป้อชิ่ว เพ้งอาสี่ เทาแป๊ะส่วย เล้าง้วนเฮาะ ทั้งหลายล้วนเป็นคนมุทะลุ ขณะบอกเล่าเรื่องราวใช้ถ้อยคำเรียบร้อยเกินไป หาก เปลี่ยนเป็นสอดคล้องกับกำพืดของแต่ละคน บนหน้ากระดาษจะเต็มไปด้วยคำ "มารดามันเถอะ" ออกจะไม่สุภาพไป ด้วยความจำกัดทางสติปัญญา นับว่าอับจน ปัญญาแล้ว
จิ้งจอกภูเขาหิมะ มีฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ เคยนำลงในนิตยสาร "Bridge" รายครึ่งเดือน จัดพิมพ์จำหน่าย ณ กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
จิ้งจอกภูเขาหิมะ กับ จิ้งจอกอหังการ แม้มีส่วนเกี่ยวโยงกัน แต่ทั้งสองชุดต่างแยกเป็นเอกเทศ ดังนั้นเนื้อหาไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน ใน จิ้งจอกอหังการ โอ้วฮุยพบพานเมี้ยวนั้งหงส์ไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้ง ตามเหตุผลขณะที่โอ้วฮุยพบพานเมี้ยวเยียกลั้งต้องประหวัดนึกถึงอ้วงจี่อีและเที้ยเล้งซู่ แต่ โดยส่วนของจิ้งจอกภูเขาหิมะ คล้ายไม่จำเป็นต้องให้ตัวละครในนิยายอีกเรื่องหนึ่งปรากฏขึ้น แม้ว่าเพียงปรากฏขึ้นในจิตใจโอ้วฮุยก็ตาม โดยแท้ที่จริงแล้ว จิ้งจอกภูเขาหิมะ เขียนขึ้นก่อน ในจิตใจของผู้แต่งตอนนั้นไม่ได้ปรากฏอ้วงจี่อีและเที้ยเล้งซู่ทั้งสองขึ้น
กิมย้ง
taken from: http://www.jadedragon.net