พระพุทธสิหิงค์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พบข้อความที่อาจละเมิดลิขสิทธิ์ |
ขอบคุณที่ช่วยเขียนบทความในวิกิพีเดีย แต่ทางวิกิพีเดียไม่สามารถรับบทความนี้ได้ เนื่องจากข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งที่ได้ส่งเข้ามาในหน้าบทความนี้ ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ จากแหล่งต่อไปนี้ :
เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายวิกิพีเดีย กรุณาศึกษาวิธีเขียนงานโดยไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ หากมีข้อสงสัย ถามได้ที่ โต๊ะเลขา |
ปัจจุบันหน้าบทความนี้ถูกขึ้นบัญชีไว้ที่ วิกิพีเดีย:ปัญหาลิขสิทธิ์ โปรดงดแก้ไขหน้าบทความนี้สักระยะหนึ่ง หากผู้ถือครองลิขสิทธิ์อนุญาตให้วิกิพีเดียใช้ข้อความที่เป็นปัญหานี้ภายใต้สัญญาอนุญาตใช้งานลักษณะ GFDL แบบที่เราใช้ หรือหากคุณเองคือผู้ถือครองลิขสิทธิ์ของข้อความที่เป็นปัญหานี้ โปรดแจ้งให้เราทราบที่หน้าอภิปรายของบทความนี้ และใต้ชื่อบทความนี้ในหน้าวิกิพีเดีย:ปัญหาลิขสิทธิ์ โปรดทราบว่าการส่งงานอันมีลิขสิทธิ์เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ถือครองลิขสิทธิ์ นอกจากจะละเมิดกฎหมายแล้ว ยังละเมิดนโยบายของเราด้วย บุคคลที่ละเมิดนโยบายนี้อย่างต่อเนื่อง อาจถูกห้ามมิให้แก้ไขบทความในสารานุกรมเป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ดี ถึงแม้ข้อความที่เป็นปัญหานี้จะละเมิดลิขสิทธิ์ก็ตาม เรายังคงยินดีรับงานต้นฉบับทุกชิ้นจากคุณเสมอ หากผู้ถือครองลิขสิทธิ์ไม่อนุญาตให้ใช้ข้อความที่เป็นปัญหา โปรดเขียนบทความสั้น ๆ ที่พอใช้การได้แทนสำหรับหัวข้อนี้ ที่หน้าชั่วคราวสำหรับบทความนี้ หรือมิฉะนั้น โปรดทิ้งหน้านี้ไว้เช่นนี้ เพื่อให้ผู้ดูแลลบออกในภายหลัง กรุณาอย่าส่งข้อความที่เป็นปัญหาซ้ำอีก เพราะมันจะถูกลบออกอีกครั้ง เมื่อใดก็ตามที่วิกิพีเดียได้รับอนุญาตให้ใช้ข้อความที่เคยเป็นปัญหา บทความนี้จะถูกแก้กลับคืนเป็นเช่นเดิมก่อนได้รับแจ้งปัญหา ในกรณีที่คุณเพิ่มข้อความลงในหน้าชั่วคราว โปรดระบุการแก้ไขดังกล่าวที่หน้าอภิปรายด้วย หากไม่มีการเขียนบทความสั้นใด ๆ ในหน้าชั่วคราว หน้าบทความนี้จะถูกลบออกเมื่อผ่านไปหนึ่งสัปดาห์นับจากเมื่อหน้านี้ถูกขึ้นบัญชีที่หน้าวิกิพีเดีย:ปัญหาลิขสิทธิ์ คุณยังคงสามารถอ่านข้อความเดิมที่ถูกส่งเข้ามาได้ที่หน้าประวัติของหน้าบทความนี้ |
พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ในตำนานสิหิงคนิทานและพงศวดารโยนก เล่าประวัติว่า หลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไป 700 ปีพระเจ้า สีหลและกษัตริย์องค์อื่นใคร ่ทอดพระเนตรรูปของ พระพุทธเจ้ามีแต่พระยานาคที่เคยเห็นพระองค์ จึงแปลงรูป เนรมิตตน เป็นรูปพระพุทธเจ้า พระเจ้าสีหล ด้กระทำการบูชา 7 วัน 7 คืน และใช้ช่างถ่ายแบบพระพุทธรูปไว้ ต่อมาพระร่วง แห่งสุโขทัย ได้ยินกิตติศัพท์ของพระพุทธสิหิงค์ใคร่จะได้ บูชาจึงบอกกับพระเจ้าสิริธรรมแห่งเมืองนครศรีธรรมราช พระเจ้าสิริธรรมได้ส่งทูตไปขอจากลังกาอัญเชิญไปให้พระเจ้า สุโขทัย ต่อมาได้อัญเชิญ พระพุทธสิงหิงค์ ไปยังเมืองสำคัญ จนกระทั่งราวปี พ.ศ. 1983 เจ้ามหาพรหมได้อันเชิญ พระพุทธสิหิงค์จากกำแพงเพชรมาถวายพญาแสนเมือง มาเชียงใหม่ เดิมพระยาแสนเมือง มาจะให้ประดิษฐานที่วัด บุปผาราม แต่เมื่อรถที่อันเชิญ มาถึงที่หน้าวัดลีเชียงพระ (ชื่อเดิมวัดพระสิงห์) รถเกิดติดขัดไม่สามารถลากไปได้ จึงให้ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ ไว้ที่วัดนี้ ในปี พ.ศ. 2063 พระเมืองแก้วได้สร้างวิหารลายคำเพื่อประดิษฐานพระพุทธ สิหิงค์ ภายในวิหารมัน ภาพจิตรกรรมรัชกาลที่ 5 เรื่องสังข์ทอง ฝืมือช่างล้านนา และเรื่องสุวรรณชาดก ฝีมือช่างภาคกลาง ในช่วงสงกรานต์ของทุกปี มีการอันเชิญพระพุทธสิหิงค์ประดิษฐานบนบุษบก แห่แหนรอบเมือง ให้ประชาชนได้สรงน้ำสักการะ
คำบูชาพระพุทธสิหิงค์ อิติปวะวะระสิหิงโต อุตตะมะยะโสปิ เตโช ยัตถะ กัตถะ จิตโตโส สักกาโร อุปาโท สะกาละพุทธะ สาสะธัง โชตะยันโตวะ ทีโป สุระนะเรหิ มะหิโต ธะระมาโนยะ พุทโธติ
ที่ตั้ง ถ.สามล้าน อ.เมือง จ.เชียงใหม่